เเจ้งเปลี่ยนเเปลงที่อยู่ใหม่ มีผลตั้งเเต่วันที่ 1 กันยายน 2555                                                                                                                                                                                       บริการแปล MSDS เอกสาร คู่มือ ข้อกำหนดจาก "ENGLISH" เป็น "ไทย"                                                                                                                                                                                       INHOUSE TRAINING                                                                                                                                                                                       PUBLIC TRAINING
 
 
  ชื่อผู้ใช้ :  
  รหัสผ่าน :    

สมัครด่วน!!! สมาชิกรายปีเพียง 1,000 บาท(ไม่รวม VAT) โดยสมาชิกจะได้รับ
 1. ซีดีกฎหมาย
 2. ข้อมูลสรุปกฎหมาย
 3. ข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจ
 4. สิทธิในการสอบถามปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายหรือระบบจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
อาชีวอนามัยและความปลอดภัยผ่านทางเว็บบอร์ด
 
http://www.cabinet.thaigov.go.th
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
   
   
 

Free Hit Counters
 
 
 
 
การจัดทำระบบการจัดการ
พลังงาน
แนวทางการจัดทำแผนป้องกัน
และระงับอัคคีภัย
 แนวทางการจัดทำบันทึก
รายละเอียดตามแบบ ทส.1
และการจัดทำรายงานสรุป
ตามแบบ ทส.2
แนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับ
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่องระบบการจำแนกและ
การสื่อสารความเป็นอันตราย
ของวัตถุอันตรายที่กรมโรงงาน
อุตสาหกรรมรับผิดชอบ พ.ศ. 2555 (GHS) 



ปรับปรุงข้อมูล 3 ธันวาคม 2556

                       อ่านต่อทั้งหมด >>
 
 
Public Service gallary
 
 
     รวมภาพอุบัติเหตุ
     คลิปความปลอดภัย
 
 
     เล่าสู่กันฟัง
      กฎหมายน่ารู้
 
      เมนูสุขภาพ
      โรคจากการทำงาน
      รู้ไว้ใช่ว่า...

 
 
 

 
 
 
Environmental & Safety News  (ข่าวสารสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย อาชีวอนามัย) 
   
 
 

โรงงานเหม็นปัญหาแก้ไม่ตก

นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)เปิดเผยว่า จำนวนเรื่องร้องเรียนปัญหามลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่ประชาชนแจ้งมายัง  กรอ.ในปีที่ผ่านมา มีผู้ร้องเรียนรวม 1,771 เรื่อง จาก 841 โรงงานอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่เป็นปัญหามลพิษทางกลิ่นจากกระบวนการผลิต 494 เรื่อง รองลงมาเป็นมลพิษทางเสียง 330 เรื่อง ปัญหาโรงงานเถื่อน 254 เรื่อง มลพิษทางฝุ่น 237 เรื่อง มลพิษไอเสียของสารเคมี 182 เรื่อง น้ำเสีย 162 เรื่อง และควันระเหยออกมาจากปล่องระบายอากาศ 152 เรื่อง
กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร 67 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องมลพิษทางกลิ่น น้ำเสีย และควัน รองลงมาเป็นอุตสาหกรรม ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์ รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะ 44 เรื่อง เป็นเรื่องทางมลพิษกลิ่น เสียง และไอสารเคมี อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ 37 เรื่อง เป็นเรื่องมลพิษทางเสียง กลิ่นและไอสารเคมี
นายณัฐพล กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรอ.ได้เข้าไปตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกร้องเรียน และเมื่อพบว่าผิดจริงก็จะสั่งให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุง โดยใช้อำนาจตามมาตรา 37 แต่หากมีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง ไม่สำเร็จก็จะใช้อำนาจตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง ให้หยุดการดำเนินกิจการ ในส่วนที่เกิดปัญหา
เพื่อแก้ไขปัญหาตามระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนด แต่หากโรงงานดังกล่าวแก้ไขไม่ได้ตามกำหนด หรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการ กรอ.ก็จะสั่งให้ปิดกิจการและเพิกถอนใบอนุญาตโดยทันที โดยใช้อำนาจตามมาตรา 39 วรรคสาม ส่วนโรงงานที่ดำเนินการตั้งและประกอบกิจการไม่ได้รับอนุญาต ก็จะสั่งให้หยุดและระงับการประกอบกิจการ โดยใช้อำนาจตามาตรา 12
“ในปีนี้ กรอ.ได้ตั้งเป้าลดจำนวนเรื่องการร้องเรียนปัญหาของโรงงานอุตสาหกรรมจากประชาชนให้ลดลง โดยจะหามาตรการให้สามารถชักจูงผู้ประกอบการ ดำเนินกิจการให้อยู่ในกฎระเบียบของ กรอ. พร้อมทั้งจะส่งเจ้าหน้าที่ กรอ.ออกไปตรวจสอบอย่างเข้มงวดทุกพื้นที่ แต่หากมีเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติม ก็มองอีกมุมได้ว่าประชาชนมีความใส่ใจกับชุมชนตัวเองมากขึ้น”.

ขอบคุณที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

 
 
 

ไฟไหม้ดาดฟ้า รง.ผลิตอิเลคทรอนิคส์ขนาดใหญ่ ในนิคมอุตฯ บางปะอิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม เกิดเหตุเพลิงไหม้บนดาดฟ้า ชั้นที่ 5 อาคารโรงงานผลิตของบริษัท เอพีซีบี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เลขที่ 139 / 2 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะคนงานจำนวนมากกำลังอยู่ในสายการผลิต จึงต้องวิ่งหนีตายออกจากอาคาร  แต่ทุกคนปลอดภัย 
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุพบว่าผู้บริหารและคนงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของโรงงาน ทำหน้าที่ได้ดีมาก ตามแผนเผชิญเหตุตามที่เคยฝึกซ้อมเอาไว้ และสามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะ
หน้าได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้ พบว่าเพลิงลุกไหม้ตรงจุดดาดฟ้าชั้น 5 ซึ่งใช้กองวัสดุเหลือใช้ เช่นไฟเบอร์กลาส ซึ่งคาดว่ามีคนงานแอบขึ้นไปสูบบุหรี่ จนเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ และโชคดีทางโรงงานสามารถดับเพลิง ลงได้อย่ารวดเร็วภายในไม่ถึง 10 นาที และเมื่อรถดับเพลิงจำนวนมากของภาครัฐเข้าไปถึง พบว่าเพลิงได้ดับลงแล้ว
ขอบคุณที่มา : มติชนออนไลน์

 
 
 

ระทึก! เตาหลอมเหล็กโรงงานระเบิดเจ็บนับสิบ

เกิดอุบัติเหตุเตาหลอมเหล็ก โรงงานใน จ.เพชรบุรี ระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ทางโรงงานสั่งปิด ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าโรงงาน สาเหตุ กำลังตรวจสอบ ...
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 19 พ.ย. 56 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี
รับแจ้ง เกิดเหตุเตาหลอมเหล็กของโรงงาน เกษมศักดิ์ เทรดดิ้ง เลขที่ 109 หมู่ 1
ตำบลทับคาง อำเภอเขาย้อย ระเบิด จึงแจ้งรถดับเพลิงจากเทศบาลเขาย้อย และเทศบาลหัวสะพาน ไปที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงได้สงบแล้ว แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
10 ราย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดของเตาหลอมเหล็ก หน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน และเจ้าหน้าที่พยาบาลจาก
โรงพยาบาลเขาย้อย ช่วยกันปฐมพยาบาล และนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการระเบิด
ของเตาหลอมเหล็กส่งโรงพยาบาลเขาย้อย จำนวน 2 คน
หลังเกิดเหตุ ร้อยเวร สภ.เขาย้อย เข้าตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุ แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงาน จึงให้เข้าไปได้ แต่กันไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไป หลังจากนั้นทางโรงงานได้ประกาศไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าโรงงาน แม้แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน อ้างความปลอดภัย
และไม่มีแสงสว่าง 
จากการสอบถามคนงานทราบว่า สาเหตุการระเบิดครั้งนี้ เนื่องจากเตาหลอมเหล็กชำรุด ทำให้น้ำเหล็กที่กำลังร้อนตกลงไปในถังน้ำหล่อเย็น ทำให้เกิดการระเบิดที่รุนแรง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
สำหรับ บริษัท เกษมศักดิ์ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นโรงงานผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ภายใต้เครื่องหมายการค้า KSTI ผลิตเหล็กข้ออ้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม.-40 มม. และเหล็กเส้นกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม.-34 มม. โดยใช้เตาหลอมไฟฟ้าขนาด
20 และ 28 ตัน ซึ่งสามารถรองรับผลผลิตได้ถึง 180,000 ตันต่อปี เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายประเภทผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณ เหล็กบิลเล็ต เหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย.
ขอบคุณที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

 
 
 
ไฟไหม้โกดังสินค้าในกรุงปักกิ่ง มีตาย 11 เจ็บ 4 คน

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังสินค้าแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ ของกรุงปักกิ่ง เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงระดมกำลังดับไฟ และเพลิงไหม้ได้ลุกลามกินพื้นที่โกดัง 500 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง กว่าจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน และบาดเจ็บ 4 คน ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบแน่ชัด
ขอบคุณที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์

 
 
 

นิคมอมตะนคร ปิดโรงงาน 17 แห่ง หลังน้ำยังท่วมสูง

ระดับน้ำที่ท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ล่าสุดได้ลดลง 10 - 20 เซนติเมตร เนื่องจากกองทัพเรือสนับสนุนเรือผลักดันน้ำเพิ่มอีก 12 ลำ จากของเดิมที่การนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร มีอยู่ 28 ลำ  เพื่อเร่งระบายน้ำลงคลองพานทอง ในช่วงน้ำทะเลลดทำให้ขณะนี้บริเวณเฟส 7 ที่เป็นแอ่งกระทะมีน้ำท่วมขังประมาณ 40 เซนติเมตร ส่วนเฟส 9 ระดับน้ำสูง 1 เมตร – 1.20 เมตร ทำให้โรงงาน 17 แห่ง ต้องประกาศหยุดงานเพราะพนักงานไม่สามารถเข้า-ออกได้ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรม ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลต่อการเดินเครื่องจักรของกลุ่มโรงงาน เนื่องจากระดับน้ำท่วมเพียงผิวการจราจรไม่ได้ท่วมโรงงานจนสร้างความเสียหายกับเครื่องจักร และเชื่อว่าภายใน 3 สัปดาห์ สถานการณ์จะกลับสู่ปกติ
ขณะที่เช้าวันนี้น้ำทะเลหนุนสูงตลอดแนวแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยระดับน้ำสูง
กว่าตลิ่ง 20 - 25 เซนติเมตร ทำให้มวลน้ำเอ่อท้นตลิ่งและบางจุดทะลักทางท่อระบายน้ำท่วมชุมชน ความสูงเฉลี่ย 50 เซนติเมตร
ส่วนอ่างเก็บน้ำสียัด อำเภอท่าตะเกียบ ย้ำที่ล้นสปริงเวย์ ยังไหลเชี่ยวหลากผ่านบริเวณจุดตัด 4 แยกบางมะเฟือง ซึ่งเป็นชุมทางแยกไปยังหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ ความสูงที่ไหลท่วมถนน
กว่า 1 เมตร ทำให้ต้องปิดเส้นทางดังกล่าว               
ระดับน้ำที่ท่วมถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร  บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 107 - 108 ตำบลมะเกลือใหม่  อำเภอสูงเนิน   จุดเชื่อมต่ออำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ระดับได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดเหลือเพียงประมาณ 15 เซนติเมตร และเจ้าหน้าที่ได้เปิดการจราจรตามปกติแล้ว แต่ทางคู่ขนานบริเวณดังกล่าวยังต้อง
ปิดการจราจร 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากน้ำยังท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร
นอกจากนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล ยังเอ่อท่วมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อำเภอพิมาย ซึ่งเก็บวัตถุโบราณล้ำค่าอายุมากกว่า 1,000 ปี  โดยระดับน้ำสูงกว่า  40 เซนติเมตร และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ได้นำถุงพลาสติกมาห่อวัตถุโบราณก่อนจะนำขึ้นเก็บไว้บนที่สูงป้องกัน
ไม่ให้เกิดความเสียหาย
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 
 

น้ำทะลักนิคมฯอมตะ200โรงงานกระทบ

นิคมฯอมตะนครชลบุรีเฟส 7-9 เจอน้ำทะลักเข้าท่วมสูง 70-120 ซม. โรงงานกว่า 200 แห่งได้รับผลกระทบ เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออก
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.พานทอง
จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่เฟส 7-9 ถูกน้ำท่วมขังสูง 70-120 ซม. ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆกว่า 200 แห่งได้รับผลกระทบและถนนหลายสายภายในนิคมฯมีน้ำท่วมขังส่งผลให้การจราจร
ติดขัดอย่างหนัก การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ด้านผู้ประกอบการโรงงาน ต้องระดมเจ้าหน้าที่และพนักงาน ช่วยกันกรอกถุงทราย เพื่อนำถุงทรายไปปิดกั้นน้ำ นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำออกสู่ภาย
นอกนิคมฯ เป็นการเร่งด่วนเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะที่ นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ คณะกรรมการและประธานฝ่ายการตลาด บริษัท อมตะคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า  เนื่องจากปริมาณน้ำที่ อ.พานทอง และ อ.พนัสนิคม มีปริมาณมากทำให้น้ำเกิดท่วมขัง และระบายออกได้อย่างช้า จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เปิดทางกั้นน้ำทุกแห่ง เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำและผันน้ำลงไปสู่คลองพานทอง พร้อมระบายลงแม่น้ำบางปะกง และลงทะเลอ่าวไทย จ.ชลบุรี  อย่างไรก็ตามเมื่อเร่งเปิดทางน้ำ แต่น้ำมีปริมาณมากทำให้ไหลลงคลองพานทอช้าและไม่ทัน จึงท่วมเจ้ามาภายในนิคม เฟสที่ 7- 8 และ 9 ซึ่งมีโรงงานอยู่กว่า 200 โรงงาน ได้ผลกระทบ นอกจากนั้นมีถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขัง ส่งผลให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางลำบากแลและล่าช้าทำให้การจราจรติดขัดนายวิบูลย์   กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้หลายๆจุด และนำทรายไปกองไว้ที่ เฟส 8 เป็นจำนวน หากโรงงานต่างๆต้องการทรายไปกั้นน้ำ ก็ให้ไปตักใส่ถุงได้เลย ซึ่งคาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงนี้เป็นเวลา 2 วัน ติดต่อกัน น้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติอย่างแน่นอน
ขอบคุณที่มา : โพสต์ทูเดย์

 
 
 

ชาวบ้านผวาข่าวฝนกรดที่ระยอง

ระยอง - ชาวบ้านผวาข่าวฝนกรดที่ระยอง ผอ.นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ยันไม่มีฝนกรด
ขณะที่ชาวบ้านรอบโรงงานฯ ระบุ ระยอง เคยพบปรากฏการณ์ฝนกรดเมื่อปี 54
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง นายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และนายสุวรรณ นันทศรุต ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 จ.ชลบุรี ได้มีการนำน้ำดื่ม และน้ำอัดลมมาเปรียบเทียบวัดค่าพีเอชให้ผู้สื่อข่าวดูความเป็นกรดเป็นด่าง พร้อมเปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุถึงปัญหาฝนกรด
โดยเฉพาะจะเกิดกับแหล่งนิคมอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้น ในส่วนของสำนักงาน
นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจเฝ้าระวังทุกวัน ทั้งน้ำเสียของ
โรงงานในความรับผิดชอบ และน้ำฝนโดยจะมีการนำน้ำฝนมาจากแหล่งอื่นมาตรวจวัด
หาค่าพีเอชเปรียบเทียบกับในพื้นที่นิคม อุตสาหกรรมมาบตาพุดด้วย
ซึ่งจากตรวจยังไม่พบว่ามีค่าเกินมาตรฐานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุกรณีฝนกรดช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเจอ
ปัญหาฝนตกในหลายพื้นที่ สาเหตุการเกิดฝนกรดเกิดจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ของไนโตรเจน สภาพฝนกรดจะต้องมีค่าต่ำกว่าพีเอช 5.6 ประเทศไทยคาดว่าพื้นที่ที่จะเกิดปัญหาฝนกรดอยู่
ในแหล่งนิคมอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งจะทำให้เกิดผลต่อสุขภาพ เช่น การระคายเคืองผิวหนังและในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคปอด จะเกิดอาการคัดจมูก
หายใจค่อนข้างลำบาก หากซัลเฟอร์เข้าสู่ระบบเลือดก็จะทำลายเส้นเลือด
จากอวัยวะภายใน กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำว่า ฝนตกใหม่ช่วงนี้ไม่ควรนำน้ำฝนมารับประทานโดยเฉพาะพื้นที่อุตสาหกรรม เพราะอาจได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่มีค่าความเป็นกรดด่าง
โดยจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ สถานการณ์ฝนตกในเขตพญาไท กรุงเทพฯ
วัดได้พีเอช 5.86 อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนที่บางนา วัดได้พีเอช 6.17 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วัดได้พีเอช 4.63 และที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบลมาบตาพุด อ.เมืองระยอง
วัดได้พีเอช 4.63 ด้านนายธนู นามสนิท ชาวบ้านชุมชนกรอกยายชา ต.เนินพระ
อ.เมืองระยอง กล่าวว่า ชาวบ้านในชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไม่กล้านำน้ำฝนมาใช้บริโภคเป็นเวลานานแล้ว ส่วนใหญ่จะใช้ตุ่มรองน้ำฝนไว้สำหรับใช้รดน้ำต้นไม้เท่านั้น ส่วนใหญ่น้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคจะใช้น้ำประปา
ส่วนกรณีปัญหาฝนกรด ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณปี 2554 ที่ชุมชนบ้านพลง ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง เคยพบปรากฏการณ์ฝนกรดมาแล้ว โดยพบเป็นคราบสีเหลืองที่ร่วง
ลงมาจากท้องฟ้า หล่นใส่รถของชาวบ้านในชุมชนซึ่งคาดว่าน่าจะ
เป็นคราบที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ปล่อยออก มาทางปล่องปล่อยของเสียของ
โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ โดยคราบสีเหลืองดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับกรดกัมมะถัน
หรือก๊าชซัลเฟอร์ไดออกไซด์
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 
 

กทม.ผุดโครงการฮ.กู้ภัยช่วยไฟไหม้อาคารสูง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 กันยายน ที่สโมสรกองทัพบก กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ทำพิธีเปิดโครงการ ฮ.กู้ภัยในพื้นที่ กทม.โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธานในพิธี
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม.ประสบภัยพิบัติหลายครั้ง ทั้งอุทกภัย
อัคคีภัย จลาจล และการก่อการร้าย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความพร้อม
เพื่อรับมือกับสาธารณภัยต่างๆ ทั้งทางบก ทางอากาศและทางน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากอัคคีภัย ต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ทั้งกำลังคนและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ปัจจุบันมีอาคารสูง
จำนวนกว่า 10,000 แห่ง จึงได้มีโครงการนำร่อง ฮ.กู้ภัย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแก่ประชาชน สร้างความมั่นใจให้ชาวต่างชาติ อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยยังเป็นการเพิ่มศักยภาพ
การกู้ภัยทำให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว และสามารถช่วยเหลือ
ประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง "ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย (สปภ.) ศึกษาการใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อนำมาบรรเทาสาธารณภัย พร้อมจัดให้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ สปภ.ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังเป็นโครงการนำร่อง และอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง กทม.จะเดินหน้าใน 3 โครงการอย่างไร คือ โครงการป้องกันอัคคีภัยในอาคารสูง โครงการป้องกันอัคคีภัยในชุมชน และโครงการป้องกันอัคคีภัยตรอกซอกซอย
ขอบคุณที่มา : มติชนออนไลน์

 
 
 
ควบคุมได้แล้วสารเคมีรั่วกองโรงงานวัตถุระเบิดที่อยุธยา ไม่มีเจ็บ-ตาย

ผู้สื่อข่ารายงานวันที่ 13 กันยายน ว่า จากการที่ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาตั้งแต่ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน ส่งผลให้พื้นอาคารที่ใช้เก็บถังสารเคมี ภายในกองโรงงานวัตถุระเบิด ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธ ทหารบก ที่ตั้งอยู่หมู่ 2 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทรุดตัวลง และถังสารเคมีได้แตกรั่วไหลออกมา 1 ถัง และฟุ้งกระจายไปในชุมชนโดยรอบ ที่ในเขตหมู่ 2 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา และ หมู่ 2 ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกัน
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รีบสั่งการให้เข้าแก้ไขปัญหาและดูแลความปลอดภัยของชุมชน โดย พ.อ.รณวุธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสานงานข้อมูลและการทำงานกับฝ่ายปกครอง ให้ข้อมูลว่าสารเคมีที่รั่วไหลออกมาเป็นสารเคมีชนิดเหลว ในกลุ่มกรดไนตริก และกรดซัลฟูริกชนิดเข้มข้น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่ากรดกำมะถัน
ต่อเวลา 10.00 น. นายทหารจากกรมสรรพาวุธ ทหารบก และเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน
สาธารณสุข จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา และตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำรวจผลกระทบของสารเคมีชนิดเหลว ในกลุ่มกรดไนตริก และกรดซัลฟูริกชนิดเข้มข้น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่ากรดกำมะถันที่รั่วไหลออกมาจากถังโลหะขนาด 15 กิโลกรัม และล่าสุดสามารถควบคุมการรั่วไหลได้แล้ว 
ผลการสำรวจพบว่า ในครั้งแรกที่ชาวบ้านสูดดมจะมีกลิ่นเหม็นฉุน แสบจมูก และในช่วงการฟุ้งกระจ่ายเมื่อเช้าเป็นหมอกสีเหลือง แต่ได้สลายไปแล้ว เพราะมีฝนตกหนัก
ในพื้นที่ ยังไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ประชาชนทุกคนปลอดภัยดี และเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ขอบคุณที่มา : มติชนออนไลน์

 
 
 

ไฟไหม้โกดัง รง.น้ำมันพืชลำพูน

ลำพูน - ไฟไหม้โกดังแกลบโรงงานผลิตน้ำมันพืชลำพูน คาดไฟฟ้าลัดวงจร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุกว่า 10 คัน เผยอาจต้องใช้เวลากว่า 5 ชม. จึงจะสกัดเพลิงในกองแกลบกว่า 100 ตันได้        
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 ก.ย.) พ.ต.ท.นริศ สายมณี พงส.สภ.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน รับแจ้ว่าเหตุไฟไหม้โกดังเก็บแกลบ บริษัท กสิสุรีย์ จำกัด เลขที่ 55/1 หมู่ 6 ต.หนองหนาม อ.เมือง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำมันพืช จึงประสานขอรถดับเพลิงในพื้นที่ และใกล้เคียงรวมกว่า 10 คัน เช่น เทศบาลเมืองลำพูน เทศบาลตำบลบ้านกลาง เทศบาลตำบลอุโมงค์ เทศบาลตำบลบ้านแป้น เทศบาลตำบลป่าสัก เทศบาลตำบลเวียงยอง เทศบาลตำบลมะเขือแจ้ เทศบาลตำบลต้นธง เข้าระงับเหตุ
โดยในที่เกิดเหตุไฟได้ลุกไหม้บริเวณโกดังเก็บแกลบสำหรับเป็นวัสดุในการผลิตน้ำมันพืช ขณะรายงานข่าวไฟยังคุกรุ่นในกองแกลบที่มีกว่า 100 ตัน คาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง จึงจะดับไฟได้
จากการสอบสวน นายเสกสรร ขันแก้ว ผู้จัดการโรงงานทราบว่า ต้นเพลิงคงจะเกิดจากในโกดัง ส่วนสาเหตุคงจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ค่าเสียหายเบื้องต้น 3 ล้านบาท ซึ่งตำรวจวิทยาการจะได้ตรวจสอบโดยละเอียดหลังเพลิงสงบ
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 

 

เพลิงไหม้อาคารเก็บเอกสารโรงงานแพน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เพลิงไหม้ตึก 5 ชั้น โรงงานแพนช่วงเช้าตรู่ พบเป็นชั้นเก็บเอกสาร คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เวลา 05.30 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ตำรวจ สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครแหลมฉบัง ไปสกัดไฟไหม้อาคาร 5 ชั้น ภายในบริษัทแพน เอเชีย ฟุตแวร์ พลับบลิค จำกัด ภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ หมู่ 11 ต.หนองขาม
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้น มีทางเข้าด้านหน้าบริษัททางเดียว พบกลุ่มควันลอยอยู่บริเวณชั้น 3 รถดับเพลิงของเทศบาลนครแหลมฉบัง 3 คัน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่า ที่เกิดเหตุเป็นห้องเก็บเอกสาร มีตู้เก็บเอกสาร และกองเอกสารอยู่จำนวนมาก คาดว่าด้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรเป็นเหตุให้มีสะเก็ดไฟหล่นใส่กองกระดาษจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่อยู่ เพราะบริษัทปิดกิจการลงตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา มีเพียงเจ้าหน้าฝ่ายธุรการเพียงไม่กี่คนที่ยังมาทำงานอยู่ ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 
 

ตายยกฝูง! ซากปลาลอยเกลื่อนแม่น้ำ พบต้นตอเป็นรง.สารเคมีสุดชุ่ย

เอเยนซี- สื่อจีนเผยภาพน่าตกใจ ปลาในแม่น้ำสายหนึ่งของเมืองอู่ฮั่น ลอยตายเกลื่อนนับหมื่นตัว ขณะที่หน่วยสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นระบุ มือสังหารเป็นโรงงานสารเคมีในพื้นที่ หลังมักง่ายปล่อยน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ
รายงานข่าว (4 ก.ย.) กล่าวว่า สำนักป้องกันสิ่งแวดล้อมประจำมณฑลหูเป่ย แถลงสาเหตุกรณีปลาน้อยใหญ่ ปริมาณกว่า 100,000 กิโลกรัม ลอยตายเต็มแม่น้ำฝู่เหอ ช่วงผ่านเมืองอู่ฮั่น หลังได้รับการร้องเรียนเมื่อวันจันทร์ (2 ก.ย.) ที่ผ่านมา โดยพบต้นตอเป็นการปล่อยน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลจากโรงงานสารเคมี บริษัท Shuanghuan Science and Technology Stock ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้ความเข้มข้นของแอมโมเนียไนโตรเจน (Ammonia-Nitrogen: NH3) ในน้ำ มีค่าเกินมาตรฐานความปลอดภัย        
โดยบริษัทฯ ตั้งโรงงานอยู่ในเขตอิงเฉิง เมืองเสี้ยวก่าน ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสารเคมีที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมและครัวเรือน เช่น โซเดียมคาร์บอเนต แอมโมเนียมคลอไรด์ และเบคกิ้งโซดา เป็นต้น
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่ายของวันจันทร์ หน่วยติดตามสิ่งแวดล้อมเมืองเสี้ยวก่าน ได้สุ่มตรวจตัวอย่างน้ำในแม่น้ำฝู่เหอที่ไหลผ่านเมือง จำนวน 9 จุด พบว่า ตอนต้นแม่น้ำของเมือง ซึ่งมีโรงงานสารเคมีตั้งอยู่นั้น วัดค่าความเข้มข้นของแอมโมเนียฯ ได้เพียง 0.81 มิลลิกรัมต่อลิตร ทว่า ตอนปลายน้ำกลับมีค่าฯ ถึง 117.7 มิลลิกรัมต่อลิตร เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยอย่างรุนแรง และต่อมาในช่วงเช้าของวันอังคาร (3 ก.ย.) ได้ทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณตอนต้นแม่น้ำอีกครั้ง พบว่า มีค่าฯ สูงถึง 196 มิลลิกรัมต่อลิตร
ขณะเดียวกัน หน่วยติดตามสิ่งแวดประจำเมืองอู่ฮั่น ก็ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เช่นกัน โดยสุ่มตรวจน้ำทั้งหมด 4 จุด ในช่วงเขตไท่ผิงซาจนถึงปากแม่น้ำจูจยาเหอที่เชื่อมกับ
แม่น้ำฉังเจียง พบว่าน้ำในเขตไท่ผิงซา มีค่าฯ 54.4 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่บริเวณปากแม่น้ำจูจยาเหอวัดค่าได้ 9.17 มิลลิกรัมต่อลิตร
ด้วยเหตุนี้ จากผลการตรวจสอบของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมทั้ง 3 แห่ง ทำให้สรุปได้ว่าน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลที่ถูกปล่อยจากโรงงานสารเคมีแห่งดังกล่าว เป็นตัวการที่ไปเพิ่มความเข้มข้นของแอมโมเนียไนโตรเจนในน้ำ จนมีค่าเกินมาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ ทำให้ฝูงปลาที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำฝู่เหอต้องล้มตายลงเป็นจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ดี สำนักป้องกันสิ่งแวดล้อมประจำมณฑลหูเป่ย ได้มอบอำนาจให้หน่วยติดตามสิ่งแวดล้อมเมืองเสี้ยวก่าน เข้าควบคุมและหยุดกระบวนการผลิตทั้งหมดของโรงงานสารเคมี พร้อมทั้งดำเนินการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบโรงงาน สืบหาสาเหตุอย่างละเอียด และดำเนินการลงโทษตามที่กฎหมายกำหนด
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 
 

ผอ.นิคมอาร์ไอแอล ยังไม่รู้ว่าสารเคมีรั่วไหลเป็นของโรงงานใด หลังผู้รับเหมาสูดดมต้องหามส่งรพ.

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีเหตุสารเคมีรั่วไหล
คนงานบริษัทฯรับเหมานิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง
สูดดมถูกหามส่งโรงพยาบาล ไปตรวจสอบบริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด
ในเครือเอสซีจี นิคมอุตสาสหกรรมอาร์ไอแอล ขณะผู้สื่อข่าวถ่ายรูปบรรยากาศหน้าโรงงาน
ได้มี รปภ.เข้ามาให้ลบภาพพร้อมกับนำแผงเหล็กมากั้นขวางไม่ให้รถผู้สื่อข่าวเดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์แจ้งนายธาดา สุนทรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล
จึงเดินทางมาเจรจาพร้อมกับให้ รปภ. บริษัทฯ เปิดแผงกั้นให้รถผู้สื่อข่าวออก และได้สั่งให้
นายวุฒิชัย แสงสมชัยพิพัฒน์ วิศวกรบริษัทฯ ชี้แจงและเปิดห้องแถลงข่าวถึงสาเหตุที่มี
สารเคมีรั่วไหลจนมีคนบริษัทผู้รับเหมาเกิดอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียน
นายวุฒิชัย แสงสมชัยพิพัฒน์ วิศวกรบริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ในเครือเอสซีจี
กล่าวว่า เมื่อเวล่า 12.00น.วันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนบ้านบน
ว่ามีกลิ่นสารเคมีรั่วไหล จึงได้หยุดกระบวนการผลิตและได้ตรวจสอบพร้อมได้อพยพคน
บริษัทผู้รับเหมามายังจุดรวมพลบริเวณโรงอาหาร และเข้าตรวจสอบพบว่ามีผู้รับเหมา 3 คน
เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนจึงได้นำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อาการปลอดภัยและได้เดินทางกลับบ้าน
จากการตรวจสอบกลิ่นสารเคมีดังกล่าวยังไม่สามารถตอบได้ว่ากลิ่นสารเคมีนั้นรั่วมาจากจุดใด
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 4 กันยายนวันเดียวกันนี้ ได้มีผู้รับเหมาเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนอีกรวม
ทั้งหมด 8 ราย และมีอาการหนัก 2 รายคือ นางน้ำอ้อย สุริยน อายุ 36 ปี และนางคำฟอม ภูบุญอิ่ม
อายุ 46 ปี เป็นแม่บ้านบริษัทรับเหมา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพระยองและยังพักรักษาตัวอยู่
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบที่มาของกลิ่นแต่ยังไม่พบว่ากลิ่นสารเคมีนั้นรั่วไหลมาจากจุดใด
โดยปกติถ้ามีกลิ่นสารเคมีรั่วไหลนั้นระบบเซฟตี้วาวล์ทั้งหมดจะถูกตัดอัตโนมัติ
พร้อมกับพ่นสเปรย์น้ำเพื่อควบคุมไม่ให้สารเคมีนั้นแพร่กระจายไปยังชุมชนหรือโรงงานรอบข้าง
แต่สาเหตุที่มีกลิ่นครั้งนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ากลิ่นสารเคมีดังกล่าวมาจากโรงงานใด
และให้พนักงานผู้รับเหมาได้หยุดทำงานก่อนเพื่อหาสาเหตุของกลิ่นสารเคมีที่ถูกลมพัดลอยเข้ามา
ในนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล นายวุฒิชัย กล่าวว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ รปภ.
ที่นำแผงมาปิดกั้นรถผู้สื่อข่าว ต้องขอโทษพราะไม่ทราบว่าเป็นรถผู้สื่อข่าวเข้ามาทำข่าว
คิดว่ามีคนลักลอบเข้ามาถ่ายรูป ด้านนายธาดา สุนทรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทีม CSR ของบริษัท เอสซีจี ลงพื้นที่ชุมชนรอบโรงงานที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ และจะนำรถตรวจอากาศเพื่อตรวจวัด
อากาศว่าเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ และจะตรวจสอบว่ากลิ่นสารเคมี
ที่พัดลอยเป็นกลิ่นสารเคมีชนิดใด และเป็นของโรงงานใดที่ใช้สารเคมีดังกล่าว เบื้องต้นจากการ
ตรวจสอบบริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ไม่มีสารเคมีที่รั่วไหล ซึ่งจะให้ทีมสำนักงาน
อุตสาหกรรมอาร์ไอแอลเข้าสำรวจพื้นที่เพื่อหากลิ่นสารเคมีที่รั่วไหล ทราบว่าผู้รับเหมา 2 คน
เป็นแม่บ้านและยังนอนให้แพทย์ดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ซึ่งมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเท่านั้น และจะเข้าไปช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลด้วย
ส่วนอีก 6 คน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
ขอบคุณที่มา : มติชนออนไลน์

 
 
 

คนงานเขมร พลัดตกตึกชั้น8 สำนักงานป.ป.ส.ระหว่างก่อสร้างเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 กันยายน ได้รับแจ้งคนงานพลัดตกจากอาคาร ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภายในสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)    อาคารทุ่งสองห้อง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่  กรุงเทพฯ   จึงประสานเจ้าหน้าที่มูล
นิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอาคารดังกล่าวอยู่ระหว่างก่อสร้าง
มีความสูง 8 ชั้น ที่ชั้น 4  พบศพนายเก๊าะ อายุ 48 ปีคนงานก่อสร้างสัญชาติกัมพูชา ในสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายพรางทหาร สวมกางเกงยีนส์ขายาว
มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะสอบสวนเพื่อนร่วมงาน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายเก๊าะ พร้อมเพื่อนคนงานได้ขึ้นไปทำงานอยู่บริเวณเสาคานของระเบียงอาคารด้านทิศเหนือ 
บนชั้น 8 ก่อนจะเสียหลักพลัดตกลงมาคาอยู่ที่ชั้น 4 จนเสียชีวิต
ขอบคุณที่มา : มติชนออนไลน์

 
 
 

กำจัดไม่หมด! พิษคราบน้ำมันกระจายถึงชลบุรี

พบคราบน้ำมันลอยตัวกันเป็นก้อนๆ ที่บริเวณอ่าวอุดม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี คาดว่าอาจเป็นคราบน้ำมันที่ถูกกำจัดจากอ่าวพร้าว
นายสมยศ เฉียวกุล สมาชิกสภาเทศบาลนครแหลมฉบัง เข้าตรวจสอบคราบน้ำมัน ซึ่งลอยมาแถบชายฝั่งทะเลบ้านอ่าวอุดม บริเวณสะพานปลาอ่าวอุดม พบว่ามีคราบน้ำมันจางๆ ลอยอยู่กลางทะเลหลายแห่ง รวมถึงมีก้อนคราบน้ำมัน หรือ ก้อนทาร์บอล (Tarball) ที่ลอยปะปนมากับคราบน้ำมัน เมื่อเอามือไปแตะก็จะแตกสลายกลายเป็นน้ำมันโดยเมื่อวานนี้(29ส.ค.56) ได้รับแจ้งว่ามีคราบน้ำมันลอยมาบนชายหาดบางสะเหร่ อ.สัตหีบ คาดว่า น่าจะเป็นคราบน้ำมันที่เกิดจากเหตุน้ำมันรั่วที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ซึ่งถูกสารเคมีกำจัดจนเป็นก้อนจมลงสู่ก้นทะเล และอาจถูกคลื่นลมตีขึ้นมาบนผิวน้ำ และลอยตามกระแสน้ำมาจนถึงฝั่งทะเลอ่าวอุดม เบื้องต้นได้เก็บตัวอย่างไปวิเคราะห์แล้ว ส่วนการขจัดก้อนน้ำมัน คงต้องรอให้ลอยมาติดชายหาดก่อนและค่อยเก็บไปทำลาย
ตามกระบวนการต่อไป
ขอบคุณที่มา : Spring News

 
 
 

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมแถลงข่าวเรื่อง “สถานีบริการก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี)ต้องขอใบอนุญาต รง.4
และเสนอก๊าซหัวเราะเป็นวัตถุอันตราย”

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2556 นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมได้แถลงข่าวเรื่อง
สถานีบริการก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี)ต้องขอใบอนุญาต รง.4 และเสนอก๊าซหัวเราะเป็น
วัตถุอันตราย ณ ห้องประชุม 503 ชั้น 5 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)
อธิบดีกรมโรงงานฯ เปิดเผยว่า ล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตัดสินว่าสถานีบริการเอ็นจีวี ที่เป็นสถานีแม่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องขอใบ รง.4 เพราะมีการแบ่งบรรจุก๊าซเช่นเดียวกับโรงบรรจุแอลพีจีที่เข้าข่ายเป็นโรงงานและต้องมีใบ รง.4  ทางกรมโรงงานฯต้องเร่งดำเนินงานตามกฎหมายโดยให้อุตสาหกรรมจังหวัดนำหนังสือ
ไปแจ้งให้กับสถานีบริการเอ็นจีวี 19 แห่งให้เข้ามาขอใบ รง. 4 ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากได้รับหนังสือแล้วต้องดำเนินการปรับทันที
อธิบดีกรมโรงงานฯได้กล่าวอีกว่า จะเสนอให้ที่ประชุมประจำเดือน กย. ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย อนุมัติให้ก๊าซไนตรัสออกไซด์เป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 1 ซึ่งต้องขออนุญาตก่อนนำเข้า   นอกจากนี้กรมโรงงานฯ จะหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่ง
ประเทศไทย (ส.อ.ท.) ถึงหลักเกณฑ์การออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
ห้ามตั้งและขยายโรงงานที่มีน้ำทิ้งในลุ่มน้ำต่าง ๆ แต่ภายหลังได้ร่นระยะห่างจากริมแม่น้ำ และให้โรงงานที่จะเข้ามาตั้ง หรือขยายจะต้องลงทุนติดตั้งเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียและ
จะต้องมีระบบบำบัดน้ำทิ้งที่มีประสิทธิภาพ

 
 
 

ไฟไหม้โกดังรมควันยางสูญ6ล้านบาท

เพลิงไหม้โกดังรมควันยางพารา ที่ชุมพร มูลค่าความเสียหาย6ล้านบาทสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนเมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 24สิงหาคม 2556 เกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงงานวงศ์บัณฑิต ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางพารา ถนนเพชรเกษม ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ต้นเพลิงเกิดจากโกดังรมควันยางพารา
โกดังที่ 2 โดยเพลิงลุกไหม้เสียไปประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างเกิดเหตุมีรถน้ำของทางเจ้าหน้าที่ จำนวน 11 คัน อยู่ระหว่างทำการใช้น้ำ
เพื่อควบคุมเพลิง และทำให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้วในเวลาต่อมาด้าน ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ศรีสืบ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ ระบุว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงสงบแล้ว และจากการประเมินความเสียหาย พบว่า เสียหายเฉพาะห้องรมควันยางพารา มูลค่าความเสียหายประมาณ 6 ล้านบาท ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่
ขอบคุณที่มา : โพสต์ทูเดย์

 
 
 

สยอง! ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันอินเดีย “ย่างสด” คนงาน 4 ศพ-บาดเจ็บ 30 คน

หน่วยดับเพลิงอินเดียใช้สายยางแรงดันสูงฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงในโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท ฮินดูสถาน คอร์ป เมืองวิสาขปัตนัม รัฐอานธรประเทศ เมื่อวานนี้(23 สิงหาคม 2556)
เอเอฟพี - เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงกลั่นน้ำมันทางภาคใต้ของอินเดีย เมื่อวานนี้ (23) ส่งผลให้คนงานถูกย่างสดเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ตำรวจท้องถิ่นรายงาน       
เจ้าหน้าที่คาดว่าจะยังมีคนงานอีกอย่างน้อย 11 คนติดอยู่ภายในโรงกลั่นปิโตรเลียมของ
บริษัท ฮินดูสถาน คอร์ป ในเมืองวิสาขปัตนัม ซึ่งเป็นเมืองท่าที่อยู่ห่าง
จากนครไฮเดอราบัดของรัฐอานธรประเทศ ราว 503 กิโลเมตร
“ต้นเพลิงเกิดบริเวณหอสูงที่กำลังก่อสร้างภายในโรงกลั่น” บี. ศิวธาร์ เรดดี จเรตำรวจประจำเมืองวิสาขปัตนัมเผย พร้อมสันนิษฐานว่าสาเหตุของเพลิงไหม้
น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร
“เวลานี้เราพบคนงานถูกไฟคลอกเสียชีวิตแล้ว 4 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 30 คน บางรายก็อาการสาหัส”    พนักงานดับเพลิงพยายาม ต่อสู้กับไฟจนถึงช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
(23) ขณะที่ทางการมีคำสั่งอพยพชาวบ้านในรัศมีใกล้ ๆ โรงกลั่นเพื่อความปลอดภัย
เอ็น. สาทิศ ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวในช่วงเย็นวันศุกร์ (23) “และเห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยขึ้นมาจากโรงกลั่น ซึ่งเวลานั้นผมอยู่ห่างออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร” โรงงานอุตสาหกรรมในอินเดียมักเกิดอัคคีภัยและอุบัติเหตุใน
รูปแบบต่างๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากมาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำและ
การตรวจสอบยังคงหย่อนยาน
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ในสังกัดสหประชาชาติ ประเมินว่า แต่ละปีจะมีชาวอินเดียเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในที่ทำงานประมาณ 50,000 คน
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 
 

สลด! แท่งเหล็ก 200 กก.หล่นใส่คนงานจากชั้นบน ร่างแหลก เพื่อนเก็บชิ้นส่วนใส่ถุงดำ

เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 21สิงหาคม พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า พนักงานสอบสวน ชำนาญการ สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุลวดสลิงเครนยกของขาดหล่นใส่คนงานเสียชีวิต ภายในสถานที่ก่อสร้างอาคาร ไอดิโอ โมบิ พระราม9 บริเวณสี่แยกพระราม9 แขวงบางกระปิ เขตห้วยขวาง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิติ ยุกตานนท์ ผกก.สน.มักกะสัน พ.ต.ท.สมบูรณ์ ศรีมงคล สวป. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.รามา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต๊กตึ้ง    
เมื่อไปถึงพบอาคารดังกล่าว อยู่ระหว่างก่อสร้าง สูง 28 ชั้น มี บริษัท พรีบิลท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ด้านข้างอาคาร บริเวณทางขึ้นที่จอดรถ
เจ้าหน้าที่พบศพ นางจันทร จีกระโทก อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261หมู่7 ตำบลกุดจับ
อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี  สภาพศพแหลกออกเป็นชิ้นส่วน โดยปรากฏว่าทางเพื่อนคนงานด้วยกันได้นำชิ้นส่วนใส่ถุงพลาสติกสีดำ ไว้จำนวน 4 ถุง วางไว้บนท้ายรถกระบะ นอกจากนี้ยังได้ใช้น้ำล้างคราบเลือด ในที่เกิดเหตุ ออกจนหมดเกลี้ยง สำหรับเครนที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นเดอร์ริคเครน (Derrick Crane) ของ บริษัท เค เจซี แมคคานิค  ตั้งอยู่บนชั้น 28 ของอาคาร มี ชนายมงคล น้อยคูณ อายุ 45 ปี เป็นคนขับเครน ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป     
จากการสอบสวน นายสมจิตร จีกระโทก อายุ 33ปี สามีผู้ตาย ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ ภรรยายืนดัดเหล็กเส้น อยู่ตรงจุดเกิดเหตุคนเดียว โดยคนงานได้ใช้เครนยกท่อแป๊ปเหล็ก ยาว 4 เมตร หลายสิบท่อน น้ำหนักราว 200 ก.ก. ขึ้นไปที่ชั้นบน แต่ขณะที่ยกขึ้นไปเกือบสุดปรากฏว่า ลวดสลิงที่ยึดอยู่กับตะขอเครน เกิดขาด ทำให้ทั้งตะขอเครน เหล็กแป็ปและ โซ่ หล่นลงมา ผู้ตายหลบไม่ทันจึงถูกทับจนเสียชีวิต     
ด้าน พ.ต.ท.ศุภชัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่
ได้เตรียมเรียกตัว วิศวกรผู้ควบคุมงานมาสอบสวน ถึงการก่อสร้าง รวมทั้ง บริษัท เคเจซี แมคคานิค ซึ่งเป็นเจ้าของเครนมาสอบสวนด้วย และให้ประสานนำตัว นายมงคล คนขับเครนมาเข้ามอบตัว เพื่อจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จึงจะสามารถสรุปได้ว่าเป็นความผิดของใคร สำหรับกรณีที่ทางคนงานมีการเคลื่อนย้ายศพและทำการล้างคราบเลือดในจุดเกิดเหตุ
โดยพละการ ถือเป็นความผิดซึ่งจะต้องสอบสวนหาตัวคนที่สั่งให้ดำเนินการ
ดังกล่าวมาดำเนินคดีอีกคดีหนึ่งด้วย
ขอบคุณที่มา : Matichon online

 
 
 

พีทีทีจีซี ชี้แจงตรวจไม่พบคราบน้ำมันชายหาด อ.แกลง ระยอง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. - นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อได้รับแจ้งว่าพบ
คราบสีเหลืองคล้ายน้ำมัน บริเวณชายหาด อ.แกลง จ.ระยอง ทางบริษัทฯ ได้ส่งเจ้า
หน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมไปเก็บตัวอย่างทรายบริเวณชายหาด อ.แกลง และนำเข้า
ตราจสอบโดยห้องปฏิบัติการของบริษัทฯ ทันที ผลออกมาพบว่าคราบดังกล่าว
เป็นซากแพลงก์ตอน ผสมกับเม็ดทรายละเอียด และไม่ใช่คราบน้ำมัน
นอกจากนี้ กรณีที่พบก้อนสีดำคล้ายดินน้ำมัน ตามชายหาดบ้านแก่นเสม็ด
และชายหาดสวนสนตามที่เป็นข่าว นายอนนต์กล่าวว่า บริษัทฯ กำลังดำเนินการ
เก็บตัวอย่างเพื่อศึกษาในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่ามีสารองค์ประกอบ
เดียวกับน้ำมันดิบที่รั่วไหลหรือไม่ บริษัทยืนยันว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่ว
บริษัทฯ มีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมทั้งมีแผนแก้ไข
สถานการณ์อย่างจริงจัง โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
และระบบนิเวศอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าฯ ระยอง เปิดเผยว่า จังหวัดได้รับรายงานจากศูนย์วิจัย
ของกรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ลงสำรวจ
ชายหาดบ้านแก่นเสม็ด และชายหาดสวนสน อ.เมือง จ.ระยอง ไม่พบคราบน้ำมัน
แต่พบแนวหาดทรายบางส่วนมีลักษณะเป็นทรายละเอียดสีดำปะปน
เจ้าหน้าที่จึงสำรวจทางกายภาพโดยการสัมผัสพื้นผิวโดยละเอียด ไม่พบลักษณะ
ของคราบน้ำมัน ไม่มีความมันติดมือ ดมแล้วไม่มีกลิ่นน้ำมัน  จึงนำตัวอย่างทรายนี้
ไปละลายน้ำ พบว่าไม่มีฝ้าน้ำมันลอยขึ้นมา ลักษณะดังกล่าวสามารถพบเห็นได้บ่อยครั้ง
เมื่อมีคลื่นลมแรงจะซัดเอาทรายที่อยู่ผิวหน้าออกไป แล้วปรากฏทรายชั้นล่าง
ที่มีลักษณะสีดำขึ้นมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ได้เก็บน้ำชายหาดและทรายดังกล่าวไปเพื่อวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันให้แน่ชัดต่อไป
ขอบคุณที่มา : สำนักข่าวไทย  

 
 
 

เหตุไฟไหม้โรงงานขยะในสหรัฐฯ

เกิดเหตุไฟไหม้ภายในโรงงานรีไซเคิลขยะ ในรัฐนิวเจอร์ซี่ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นโรงงานรีไซเคิล
ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเปลวเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องทำงานอย่างหนักและต้องใช้เครนเพื่อขนย้ายขยะ ควบคู่ไปกับการดับเพลิงด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ยืนยันได้ว่า ควบคุมเปลวเพลิงได้ทั้งหมดแล้วหรือไม่ แต่เบื้องต้นปฏิบัติการนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ  
ขณะเดียวกันที่โบลิเวีย เกิดไฟป่าลุกโหมจากการเผาขยะของประชาชน ทางการต้อง
ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่เกิดไฟป่า เพื่อเร่งดับเปลวเพลิงให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้ว 13,000 เฮคเตอร์ หรือกว่า 80,000 ไร่ และเตรียมลุกลามไปถึงท่อส่งก๊าซไปยังบราซิลด้วย เบื้องต้นทางการสั่งอพยพประชาชน
ที่อยู่โดยรอบจุดเกิดไฟป่าแล้วเพื่อความปลอดภัย
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 
 

พบคราบน้ำมันเกลื่อนหาดระยองยาว 10 กม.

วันที่  20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง พบคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดเข้าชายหาดบริเวณปากคลองแกลง ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยองเป็นระยะทางยาว  นายจตุรัส  เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง ได้เดินทางไปตรวจสอบพบคราบน้ำมันจำนวนมากเกาะเต็มชายหาด
จึงได้สำรวจชายหาด ตั้งแต่ปากคลองแกลง ต.แกลง  แก่นเสม็ด  อ.เมืองระยอง
เรื่อยไปจนถึงชายหาด ต.ชากพง ชายหาดวังแก้ว ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง
ซึ่งเป็นจุดที่พบปลาโลมาตายเมื่อเร็วๆนี้ ตลอดจนถึงชายหาดแหลมแม่พิมพ์เต็มไป
ด้วยคราบน้ำมันเป็นระยะทางกว่า 10 กม.
นายจตุรัส  เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง
พร้อมด้วยเครือข่ายประมงกว่า 100 คน พร้อมด้วยนายบัญญัติ  เศียรเขียว ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.แกลงและนายคเชนทร์  แจ่มใส  นายกเทศมนตรี ต.สุนทรภู่ เดินทางไปตรวจสอบ
และช่วยกับเก็บกวาดคราบน้ำมันปนทราย ใส่ถุงขนาด 20 กก.
จำนวนมากรวมน้ำหนักประมาณ 3 ตันขนใส่รถกระบะเพื่อขนไปไว้ที่หน้าบริษัท  ปตท.
นอกจากนี้ยังพบปลาปักเป้า ปลากะพง ตายอยู่ใกล้ก้อนน้ำมันดิบมีลักษณะเป็นสีดำ  2 ก้อนใหญ่สภาพคล้ายโดนสารเคมีที่ใช้ขจัดคราบน้ำมันให้แตกเป็นก้อนและจมลงใต้ทะเล ซึ่งนางสมลักษณ์ หุตานุวัตร  อนุกรรมาธิการด้านพลังงานวุฒิสภา  ได้ลงพื้นที่และ กล่าวว่าคราบน้ำมันที่พบปนเปื้อนบริเวณชายหาดน่าจะเกิดจากการใช้น้ำยาสารเคมี
สลายคราบน้ำมันและถูกคลื่นซัดเข้าชายหาด ส่วนก้อนน้ำมันดิบ มีลักษณะ
คล้ายโดนสารเคมี(carball)ที่จมลงใต้ทะเล ถูกกระแสคลื่นซัดเข้าชายฝั่งย่อม
ส่งผลกระทบแก่คนที่ลงเล่นน้ำทะเล ต้องให้ปตท.ระดมกำลังมาช่วยเก็บ
คราบน้ำมันให้หมดโดยเร็ว ด้านนายคเชนทร์  แจ่มใส  นายกเทศมนตรี ต.สุนทรภู่ เจ้าของพื้นที่ชายหาด ต.ชากพงไปจนถึงชายหาดแหลมแม่พิมพ์ กล่าวว่าจะไปลงบันทึกประวันที่ สภ.กร่ำ ทำให้สิ่งแวดล้อมได้รับความเสียหายไว้เป็นหลักฐาน.
ขอบคุณที่มา :

 
 
 

เตรียมขนย้ายสารพิษกลางป่าเมืองกาญจน์ไปทำลาย จ่อดำเนินคดีคนนำมาทิ้ง

กาญจนบุรี - อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมผู้ว่าฯ กาญจนบุรี และ ผบก.กาญจน์
ลงพื้นที่ตรวจสารพิษกลางป่าเมืองกาญจน์ พบเป็นสารพิษอันตรายต่อมนุษย์
เผยเบื้องต้นรู้ตัวผู้ต้องหาแล้ว และเตรียมคุมตัวมาดำเนินคดี ชี้หากสาวถึงใครต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วย และเตรียมขนย้ายสารพิษไปทำลายอย่างถูกวิธี เกรงชาวบ้านได้รับอันตราย 
จากกรณีที่มีผู้ลักลอบนำสารพิษไม่ทราบชนิดใส่ถุงบิ๊กแบ็ก และถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร
มาทิ้งที่บริเวณป่าเชิงเขาตอง หมู่ 6 บ้านหนองสองตอน ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
โดยถูกนำมาทิ้งรวมกัน 2 จุด ภายหลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้เร่งเข้าไปตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุด วันที่ 16 ส.ค.56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กลุ่มงาน
เฝ้าระวังฯ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 ได้นำอุปกรณ์ และสารเคมีทางวิทยาศาสตร์มาทำการ
ตรวจสอบหาค่าสารพิษที่เจือปนอยู่ พบว่าถังพลาสติกสีน้ำเงินขนาด 200 ลิตร
ประมาณ 40-50 ถัง ถูกกองทิ้งไว้รวมกันตรวจสอบพบว่าเป็นสารเรซิน ที่หมดอายุการใช้งาน ส่วนสารเคมีที่บรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ๊กทั้งหมดเป็นตะกรันหลอมอะลูมิเนียม ที่เสื่อมสภาพ ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีสารแคดเมียม และสารโครเมียม อยู่ในระดับ 2 ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดเป็นสารพิษที่มีอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์
และพืชชนิดต่างๆ ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (19 ส.ค.) นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมคณะเดินทางมาตรวจสอบ
สารเคมีที่มีผู้ลักลอบนำมาทิ้งที่บริเวณป่าเชิงเขาตอง หมู่ 6 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุร โดยมีชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร
ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กายจนบุรี
นายหัสนัย จิตอารีย์ นายอำเภอท่าม่วง พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.ท่าม่วง ร.ต.ท.ชุมพล เหลืองเอี่ยม พนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง นายเดโช ประกาศแก่นทราย ปลัดอาวุโสอำเภอท่าม่วง เจ้าหน้าที่อำเภอท่าม่วง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ
นายณัฐพล เปิดเผยว่า สารเคมีที่นำมาทิ้งเกิดจากการขบวนการฟอกย้อม และที่พบมีอยู่ประมาณ 40 ถัง ประมาณ 20 ตัน ส่วนจุดที่ 2 ที่พบบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กนั้น เกิดจากการหลอมอะลูเนียมขั้นสุดท้าย เป็นชนิดเดียวกันที่เราเคยเจอที่จังหวัดสมุทรสาคร และหลังจากที่กรมโรงงานได้รับการประสาน เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ
ตั้งแต่วันที่วันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบว่าเป็นวัตถุอะไรกันแน่ และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่ลักลอบทิ้งเศษกากจากอุตสาหกรรม รวมทั้งเจ้าของที่คือ ทหารก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำแล้วเช่นกัน จะพบว่าเจ้าของที่ดิน
ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการที่จะลักลอบทิ้งกากสารเคมีฉะนั้น สิ่งที่เราจะตองเร่งดำเนินการก็คือ จะต้องเร่งสืบหาต้นตอว่ากากของเสีย หรือวัตถุที่ถูกนำมาทิ้งเหล่านี้มาจากใคร หลังจากทราบก็จะได้ไปแจ้งความดำเนิน คดีต่อผู้ที่ลักลอบนำกาก
ของเสียเหล่านี้มาทิ้ง แต่ในเบื้องต้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน
ให้แก่ประชาชน ทางกรมโรงงาน ได้ประสานไปยังบริษัทกำจัดสารพิษที่ได้มาตรฐานของ
กรมโรงงาน นำรถบรรทุกพร้อมเจ้าหน้าที่ มาขนย้ายสารเคมีไปเผาทำลายทิ้ง
นิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ส่วนตะกรันที่หลอมจากอะลูมิเนียม ก็จะขนย้ายไปทำลาย ด้วยการฝังกลบในพื้นที่จังหวัดสระบุรี        
สำหรับสารโคลิเมอร์ ที่ปกติจะไม่พบที่ไหนใช้มาก่อน แนวทางการสอบสวนหาที่มาของ
สารชนิดดังกล่าวนั้น เบื้องต้นเราพบเอกสารที่ติดอยู่ข้างถัง ซึ่งเราจะนำสารไปตรวจสอบว่า
วัตถุที่บรรจุอยู่ในถังนั้นเป็นสารชนิดเดียวกันหรือไม่ และหากปรากฏว่าเป็นสารชนิดเดียวกัน ก็เป็นไปได้ว่าบริษัทที่นำมาทิ้งจะเป็นเอกสารที่ปรากฏอยู่บนถัง ซึ่งสารชนิดนี้จะมีอันรายเกี่ยวกับ
ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ ถือว่าเป็นวัตถุที่อันตรายประเภทหนึ่ง และหลังจากตรวจสอบแล้ว
เราจะดำเนินคดีใน 2 คดีคือ ลักลอบทิ้งกากตาม พ.ร.บ.โรงงาน และคดีครอบครองลักลอบนำ
วัตถุอันตรายมาทิ้งโดยผิดกฎหมายซึ่งมีโทษถึงจำคุก สำหรับระยะในการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา
เบื้องต้นเราได้ปรึกษากับ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีแล้ว
คาดว่าการตรวจสอบสารเคมีจะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ หากตรวจสอบแล้วพบว่า
เป็นของบริษัทที่ประกฏอยู่บนถังพลาสติก ก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
เพื่อให้เรียกบริษัทมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ในส่วนการควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบันกรมควบคุมโรงงาน
ได้เข้าไปควบคุมโรงงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด แต่ปัญหาที่พบคือ ผู้ที่รับกากไปบำบัดทุกวันนี้
ยังมีการลักลอบนำไปทิ้ง ซึ่งพบอยู่หลายๆ ที่ อาจจะเป็นเพราะการนำกากไปบำบัดจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง อย่างเช่นตะกรันหลอมอะลูมิเนียมมีค่าใช้จ่ายในการนำไปบำบัดถึงตันละ 4,500 บาท
ในเมื่อค่าบำบัดมีราคาสูง โรงงานเหล่านี้ก็จะไปจ้างบริษัท หรือใครก็ไม่รู้ให้นำสารเคมีไปทำลาย
และสุดท้ายผู้ที่รับช่วงต่อก็นำมาทิ้งอย่างที่เป็นอยู่        
ดังนั้น มาตรการการป้องกันก็คือ จะต้องลงโทษอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ปรับ จะต้องดำเนิน
คดีทางอาญาแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย และจากนี้ไปกรมโรงงานจะไปเร่งตรวจสอบโรงงาน
ประเภท 105 หรือโรงงานประเภท 106 ทั้งหมดทั่วประเทศว่ามีศักยภาพในการรับของเสีย
เหล่านี้หรือไม่ ถ้าพบว่าโรงงานนั้นๆ ไม่มีศักยภาพเราก็จะไม่ออกใบอนุญาตให้
หรืออาจจะถอนใบอนุญาต สค.2 ที่มีอยู่ เพื่อขจัดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป
ด้านนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการขนย้ายสารเคมีเพื่อนำไปกำจัดทิ้งอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
เชื่อว่าประชาชนในพื้นที่จะเกิดความปลอดภัย และสบายใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
เพราะสารเคมีที่พบไม่ใช่สารเคมีที่คิดจะนำไปทิ้งที่ไหนก็ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่อาจจะ
ก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่กำลังเร่งรัดนำตัวผู้ก่อเหตุมา
ดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว คาดว่าเวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่งของวันนี้ เจ้าหน้าที่ก็คงจะ
สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ จากนั้นจะสืบสวนต่อไปว่า ต้นตอ หรือแหล่งที่
มาของสารเคมีทั้งหมดนั้นนำมาจากที่ใด ซึ่งจะถูกดำเนินคดีต่อเจ้าของแหล่งที่มาของสารเคมีเช่นกัน
แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงก็คือ หากมีขบวนการลักลอบนำสารพิษมาทิ้งในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่กว้างใหญ่มีผืนป่าที่อยู่ห่างไกลชุมชนเป็นจำนวนมาก ทำให้ยากต่อการป้องกัน
ดังนั้น ตนจะประสานกับผู้นำท้องที่ เช่น กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยกันตรวจสอบ เช่น
หากพบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ หรือ 18 ล้อวิ่งเข้ามาในพื้นที่โดยที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของให้รีบ
แจ้งเจ้าหน้าที่เข่าไปตรวจสอบในทันที นี่คือมาตรการการป้องกันในเบื้องต้น
ทางด้าน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่
ตำรวจได้เบาะแสแล้วว่า ผู้ที่ลักลอบนำสารพิษมาทิ้งนั้นเป็นใคร ซึ่งในเวลา 15.30 น.
ผู้ต้องหาจะเดินทางไปมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่ม่วง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตั้งข้อหาลักลอบสิ่งปฏิกูล ซึ่งข้อหาดังกล่าวเป็นข้อหาเพียงเล็กน้อยโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท แต่ถ้าหากตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า สารเคมีที่นำมาทิ้งเป็นวัตถุอันตรายผู้ต้องหาก็จะถูกดำเนินคดีที่หนักกว่าเดิม และหากเจ้าหน้าที่เรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาหากไม่มาก็สามารถออกหมายจับได้เลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ขอปิดรายชื่อผู้ต้องหาเอาไว้ก่อน แต่เบื้องต้นจะดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาในคดีของ
พ.ร.บ.โรงงานก่อน
สำหรับผู้ต้องหานั้นเป็นคนในพื้นที่ เบื้องต้นมีทั้งหมด 2-3 คน ส่วนแหล่งที่มาจากการ
ตรวจเอกสารรหัสของบริษัทพบว่า มาจากอำเภอแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี แต่รายละเอียดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอให้กรมโรงงานมาให้ข้อมูลที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งได้ประสานท่านอธิบดีกรมควบคุมมลพิษที่มาในวันนี้แล้วว่า ขอให้เจ้าหน้าที่มาให้ข้อมูล
ที่แท้จริงต่อเรา เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่กระทำผิด หรือผู้จ้างวานต่อไป
ซึ่งดูจากลักษณะแล้วคงมีขบวนการที่ทำกันเป็นทอดๆ แต่ในเบื้องต้น กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ยังไม่ได้ให้ข้อมูลในเชิงลึกต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงแต่บอกว่าอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ
ถังพลาสติกที่บรรจุสารเคมี และถุงบิ๊กแบ็กที่บรรจุตะกรันหลอมอะลูมิเนียมเท่านั้น
รวมทั้งจะต้องให้เจ้าหน้าที่วิศวกรเคมีมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่าเป็นสารพิษจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 
 

นั่งร้าน บช.ภ.4 ถล่มทับคนงานพม่าสาหัส 2 ราย

เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาคาร บช.ภ.4  หลังใหม่ ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งกำลังก่อสร้างไปได้ประมาณ 40 %  เป็นอาคารปูนซีเมนต์สูง 4 ชั้นครึ่ง  โดยมีนั่งร้านอยู่ด้านหน้าอาคารทำด้วยไม้ยูคาลิปตัสสูง 12 เมตร สำหรับให้คนงานขึ้นไปเทปูนซิเมนต์ถล่มลงมาทับคนงานชาวพม่าที่เป็นสามีภรรยา 2 คน 
และคนงานไทย 3 คน โดยชาวพม่า 2 รายขึ้นไปทำงานบนนั่งร้านหล่นลงมาพร้อมกับโดนนั่งร้านทับ อาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.ขอนแก่น  ทราบชื่อเบื้องต้นว่า นายเย้า อายุประมาณ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกซี่โครงด้านขวาหัก  ศีรษะแตก และ นางตัวน้อย  อายุ 25 ปี ขาและแขนขวาหัก 
ศีรษะแตก  ส่วนคนงานไทยอีก 3 คนที่ทำงานอยู่ด้านล่างบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  เนื้อตัวถลอก ศีรษะแตก โดยสาเหตุนั่งร้านถล่มลงมาครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากนั่งร้านที่ใช้ค้ำยันทำด้วยไม้
ยูคาลิปตัสเก่า ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานวิศกร
ที่รับผิดชอบโครงการมา ทำการสอบสวน พร้อมทั้งประสานสำนักงานโยธา จ.ขอนแก่นมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากความประมาท หรือการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตฐานหรือไม่ ก่อนจะแจ้งข้อหาต่อผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีต่อไป.
ขอบคุณที่มา : ข่าวเดลินิวส์

 
 

สารปรอทลามเสม็ดเบรกแถลงผลสอบ

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ยกเลิกการแถลงผลการตรวจคุณภาพน้ำทะเลรอบเกาะเสม็ด
จ.ระยอง จากการเก็บตัวอย่างน้ำช่วงวันที่ 8 ส.ค. ตามที่กำหนดไว้วันที่ 15 ส.ค. ภายหลังนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ตำหนิการแถลงผลการตรวจสอบ
ในรอบแรกอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดี คพ. ได้แถลงผลการตรวจคุณภาพน้ำจากการเก็บตัวอย่างเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ระบุว่า น้ำทะเลอ่าวพร้าวปนเปื้อนสารปรอทเกินค่ามาตรฐาน 2.9 ไมโครกรัมต่อลิตร ขณะที่อ่าวทับทิมเกินมาตรฐาน 0.25 ไมโครกรัมต่อลิตรทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นายปลอดประสพได้เรียกนายวิเชียรเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นไปได้สูงที่นายปลอดประสพจะสั่งระงับการแถลงข่าวในรอบสอง หลังจากผลการตรวจสอบครั้งที่ 2 น้ำทะเลยังคงปนเปื้อนสารปรอทเกินค่ามาตรฐาน และได้ขยายวงออกไปยังหาดอื่นอีกด้านนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า จะขอแถลงผลการตรวจสอบเองใน
วันที่ 17 ส.ค.นี้
ขอบคุณที่มา : โพสต์ทูเดย์

 
 
 

ระทึกฟ้าผ่าโรงแยกก๊าชธรรมชาติระยอง

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 15 ส.ค. เกิดอุบัติเหตุฟ้าผ่าโรงแยกก๊าชธรรมชาติระยอง เลขที่ 555 ถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง ทำให้หน่วยผลิตก๊าชธรรมชาติที่ 5
ได้รับความเสียหาย ส่งผลให้โรงแยก ก๊าซหน่วยที่ 5 ไม่สามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อเวลา 00.34 น. วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุฟ้าคะนองและ ฝตกหนักใน จ.ระยอง และมีอุบัติเหตุฟ้าผ่าอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนจากไอเสียเครื่องยนต์ของโรงแยก
ก๊าซธรรมชาติระยองหน่วยที่ 5 ทำให้ได้รับความเสียหาย ส่งผลให้โรงแยกก๊าซหน่วยที่ 5 ไม่สามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ และได้เร่งดำเนินการแก้ไข
สถานการณ์อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้แอลพีจี
เป็นเชื้อเพลิงในประเทศ ทั้งในส่วนของภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนจากไอเสียเครื่องยนต์ ที่ได้รับความเสียหายจะต้องใช้เวลาซ่อมแซมอย่างน้อย 3-5 เดือน จึงจะสามารถกลับมาเดินเครื่อง
ได้ตามปกติ สำหรับสาเหตุการเกิดเหตุและมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่าง
ละเอียดอีกครั้ง.
ขอบคุณที่มา : ข่าวเดลินิวส์

 
 

ไฟไหม้ “โรงกลั่นน้ำมัน” ในเวเนซุเอลาดับได้แล้ว -จนท.ชี้สาเหตุจาก “ฟ้าผ่า”

ภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมัน เปอร์โต ลา ครูซ ของเวเนซุเอลา วานนี้(11)
เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เพลิงซึ่งลุกไหม้โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวเนซุเอลาวานนี้(11) ถูกดับลงได้แล้วโดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากฟ้าผ่า รองประธานบริษัทน้ำมัน PDVSA ของเวเนซุเอลา แถลงวันนี้(12)
เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลา เปิดเผยว่า สายฟ้าที่ฟาดลงมายังถังเก็บน้ำมันในโรงกลั่น เปอร์โต ลา ครูซ ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ และมีควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ามองเห็นได้ชัดจากระยะไกล จนทางการต้องมีคำสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยรอบ
ทั้งนี้ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว  
เมื่อปีที่แล้ว โรงกลั่นน้ำมันอามวยซึ่งเป็นโรงกลั่นขนาดใหญ่ที่สุดในเวเนซุเอลาเพิ่งจะเกิดเพลิงไหม้ ส่งผลให้คนงานเสียชีวิตไป 55 ราย        
โรงกลั่นน้ำมัน เปอร์โต ลา ครูซ มีกำลังผลิตน้ำมันราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งทาง PDVSA เชื่อว่า เหตุเพลิงไหม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิต
ถังเก็บน้ำมันต้นเพลิงถูกฟ้าผ่าเมื่อเวลาประมาณ 15.15 น.วานนี้ (11) ตามเวลาท้องถิ่น (2.45 น. วันนี้ตามเวลาในไทย) จากนั้นไม่นาน ทางการก็ได้สั่งอพยพชาวบ้านภายในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบโรงกลั่น ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลแคริบเบียน
ชาวบ้านหลายคนพากันเก็บข้าวของหนีออกจากพื้นที่ ขณะที่ภาพถ่ายควันพิษสีดำที่พวยพุ่งออกมาจากถังเก็บน้ำมันแพร่กระจายไปตามสื่อสังคมออนไลน์
เปอร์โต ลา ครูซ เป็นโรงกลั่นน้ำมัน 1 ใน 6 แห่งในเวเนซุเอลาที่อยู่ภายใต้การบริหารของ PDVSA
ปัจจุบัน เวเนซุเอลาเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 

ระทึก! ไฟไหม้สนามบินนานาชาติไนโรบี ทางการเคนยาประกาศปิดไม่มีกำหนด ผู้โดยสารตกค้างอื้อ

เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดเหตุไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงที่สนามบินนานาชาติในกรุงไนโรบี ของเคนยา กระทบเที่ยวบินจำนวนมากขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความพยายามอย่างหนัก
เพื่อหาทางควบคุมเพลิง
การท่าอากาศยานเคนยา (เคเอเอ) แถลงในวันพุธ (7) โดยระบุว่า สนามบินนานาชาติ
“โจโม เคนยัตตา” ในกรุงไนโรบีจำเป็นต้องปิดให้บริการต่อไปโดยไม่มีกำหนดจนกว่า
จะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินสามารถ
เข้าปฏิบัติการควบคุมเพลิงได้โดยสะดวก ขณะที่กลุ่มควันไฟที่พวยพุ่งออกจากสนามบินแห่งนี้ สามารถเห็นได้ไกลในพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไป หลายกิโลเมตร
ผู้สื่อข่าวของเอพีซึ่งรายงานจากสนามบินระบุว่า เหตุไฟไหม้ครั้งนี้มีความรุนแรงมาก และดูเหมือนไฟจะลุกลามเข้าปิดกั้นพื้นที่ในส่วนของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า
โดยมีรายงานว่า บรรดาผู้โดยสารที่ติดค้างต้องขนสัมภาระของตัวเองออกไปยืนรวมตัวกัน
บริเวณทางเดินเท้าด้านนอกสนามบิน ส่วนเที่ยวบินขาเข้าทั้งหมดต้องเปลี่ยนเส้นทางไป
ลงจอดยังสนามบินแห่งอื่นของเคนยาแทน รวมถึงสนามบินที่เมืองมอมบาซา      
ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เหตุเพลิงไหม้ที่คาดว่าจะมีต้นตอมาจากบริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง
ของสนามบินโจโม เคนยัตตา ซึ่งเป็นสนามบินที่คับคั่งที่สุดของภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกแห่งนี้ เกิดจากสาเหตุใด และเกี่ยวข้องกับการถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้ายหรือไม่
ขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

 
 

สหรัฐฯ-โรงงานแก๊สระเบิดที่รัฐฟลอริดา เจ็บ 7 คน

เกิดเหตุระเบิดต่อเนื่อง ในโรงงานแก๊สโพรเพน ทางตอนกลางของรัฐฟลอริดา เมื่อคืนวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 7 คน
เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงงานแก๊ซโพรเพน บูล ไรโน ในเมือง ทาวาเรส ของรัฐฟลอริดา เมื่อเวลา 23.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 10.00 น.วันนี้ ตามเวลาประเทศไทย แรงระเบิด ทำให้หลังคาของอาคารพัง จากนั้นก็เกิดระเบิดตามมา อย่างต่อเนื่อง ราว 1 ชั่วโมง และทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามรุนแรง ภายในโรงงาน ซึ่งขณะนั้นมีคนงานอยู่ด้วย ล่าสุดมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 7 คน ขณะที่ 15 คน สามารถหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย 
แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมเพลิงได้ และ แก๊สไม่ส่งผลอันตราย แต่ประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้กับโรงงาน ในรัศมี 800 เมตร ต่างอพยพไปออกจากบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุการระเบิด 
ทั้งนี้โรงงานแก๊สโพรเพนแห่งนี้ เป็นแหล่งบรรจุแก๊สโพรเพน เพื่อใช้เตาบาร์บีคิว , หุงต้มในครัวเรือน และคาดว่าในคืนที่เกิดเหตุ มีถังแก๊สโพรเพน มากถึง 53,000 ลูกเลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา : ครอบครัวข่าว 3 

 
 

คราบน้ำมันกลางทะเลระยองไหลถึงเกาะเสม็ดแล้ว

คราบน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงทะเลเมืองระยองได้ไหลมาถึงบริเวณเกาะเสม็ดแล้ว ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่อ่าวพร้าวลงเล่นน้ำไม่ได้ ต้องยกเลิกการท่องเที่ยวขนของเดินทางกลับ
ความคืบหน้าเหตุท่อน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน)
รั่ว ทำให้น้ำมันดิบไหลลงทะเลบริเวณจังหวัดระยอง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ คราบน้ำมันดิบได้ไหลมาติดบริเวณเกาะเสม็ดแล้ว
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า พบคราบน้ำมันดิบลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์มบางๆ หนา 20-30เซนติเมตร ไหลมาติดบริเวณหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ยาวกว่า 600 เมตร ห่างออกไปกลางทะเล
ประมาณ 200 เมตร เบื้องต้นได้ระดมกำลังทหารกว่า 300 นาย ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล องค์การบริหารส่วนตำบลเพ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด เร่งจัดเก็บคราบน้ำมันเป็นการด่วน แต่ต้องประสบปัญหาคลื่นลมรุนแรง ไม่สามารถควบคุมทิศทางของคราบน้ำมันได้ และ มีแนวโน้มว่าคราบน้ำมันจะไหลไปยังอ่าวขาม ชายหาดสวนสน และ ชายฝั่งบ้านเพ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับหมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง อย่างประเมินค่าไม่ได้ 
อย่างไรก็ตาม คราบน้ำมันที่ไหลมาถึงเกาะเสม็ด เช้านี้ ส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่อยู่อ่าวพร้าว ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ ทำให้ต้องเก็บข้าวของเดินทางกลับก่อนกำหนดแล้ว
ล่าสุด นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่จุดที่มีคราบน้ำมันบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ดแล้วเช่นกัน
ขอบคุณที่มา : ครอบครัวข่าว 3

 
 

ยอดตายม้าเหล็กตกรางในสเปนขยับเป็นอย่างน้อย 80 ศพ

ความคืบหน้าเหตุการณ์อุบัติเหตุขบวนรถไฟตกรางทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ล่าสุดจนถึงเช้าวันนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 80 ศพแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังเค้นสอบคนขับรถ โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้ความเร็ว
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า ขบวนรถไฟโดยสารความยาว 13 ตู้ บรรทุกผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่รวม 218 คน ออกเดินทางจากกรุงมาดริด มุ่งหน้าเมืองเฟอร์โรล ตกรางขณะแล่นอยู่ห่างจากสถานีเมืองซันติอาโก เดอ กอมโปสเตลา เมืองเอกของ
แคว้นกาลิเซีย เพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเหตุให้ตู้โดยสาร 8 ตู้ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจนเกยขึ้นซ้อนกันและเกิดเพลิงลุกไหม้ทันที ล่าสุดจนถึงวันนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 80 ศพแล้ว ผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 130 คนถูกนำตัว
ส่งโรงพยาบาล และยังมี 95 คนนอนรักษาตัวอยู่ ซึ่งในจำนวนนี้ มีผู้บาดเจ็บสาหัส 32 คน รวมทั้งเด็กด้วย สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ประกอบด้วยคนหลายสัญชาติ ซึ่งรวมทั้งชาวอเมริกัน 5 คน และอังกฤษ 1 คน และมีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วย 1 คน ส่วนตัวคนขับรถไฟนั้น ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวนอยู่ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การใช้ความเร็วของรถไฟ ขณะที่ กล้องโทรทัศน์วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ และเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ “กล่องดำ” บันทึกข้อมูลการเดินทางของรถไฟ
สเปนจะจัดพิธีไว้อาลัย 3 วันให้ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟมรณะครั้งนี้ ซึ่งอุบัติเหตุที่เลวร้ายที่สุดในประเทศอีกครั้งหนึ่ง โดยกษัตริย์ฮวน คาร์ลอส ก็ทรงเสด็จไปเยี่ยมผู้รอดชีวิต และครอบครัวของเหยื่อ ที่โรงพยาบาลซันติอาโก ยูนิเวอร์ซิตี ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฆอย ก็เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อเช้าวานนี้ หลังจากเรียกประชุมฉุกเฉินเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
โ ศกนาฏกรรมขบวนรถไฟตกรางที่สเปนในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังอุบัติเหตุขบวนรถไฟโดยสารตกรางที่ชานกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 30 คน
ขอบคุณที่มา : เดลินิวส์

 
 

สื่อจีนเผยแอร์สาวจีนใช้โอโฟน4-ที่ชาร์จปลอม

ซีซีทีวี รายงาน กรณี แอร์โฮสเตสสาว ชาวจีน ถูกไฟชอร์ต ขณะคุยโทรศัพท์ที่กำลังชาร์จแบต
เผย สาวจีน ใช้ไอโฟน 4 ไม่ใช่ ไอโฟน 5 พบอุปกรณ์ชาร์จแบต ไม่ใช่ของแท้จากแอปเปิล

สถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี สื่อดังของจีน รายงานข่าวความคืบหน้า กรณี แอร์โฮสเตสสาว ชาวจีน รายหนึ่ง ถูกไฟชอร์ต เสียชีวิต ระหว่างคุยโทรศัพท์ ซึ่งระบุยี่ว่า เป็น ไอโฟน 5 ขณะที่กำลังชาร์จแบตอยู่ ซึ่ง ซีซีทีวี รายงานข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าการสอบสวนว่า
ตำรวจจีน ที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ โทรศัพท์รุ่น ไอโฟน 4 กำลังเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่อยู่ข้าง ๆ ศพ  โดยอุปกรณ์ประกอบด้วย สายชาร์จ หัวชาร์จ และปลั๊กไฟ อยู่ในสภาพดี ส่วนตัวโทรศัพท์ทั้งสองด้าน มีรอยไหม้ชัดเจน แต่ยังใช้งานได้เป็นปกติ ผู้สื่อข่าวจีน ยังชี้ว่า จากภาพที่สถานีโทรทัศน์จีน นำมาแสดง  อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ของผู้เสียชีวิต ไม่ใช่อุปกรณ์ของแท้ของบริษัทแอปเปิลอย่างไรก็ตาม ในรายงานข่าวระบุว่า ยังไม่อาจสรุปได้ว่า การเสียชีวิตเนื่องจากไฟฟ้าชอร์ต ขณะคุยโทรศัพท์ของแอร์โฮสเตสสาวนั้น มาจากปัญหาโทรศัพท์  ต้องรอตรวจสอบสาเหตุที่ชัดเจนด้าน บริษัทแอปเปิล ก็ยังไม่ได้แถลงการณ์ใด ๆ เพิ่มเติม หลังจากที่ได้แถลงแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต นายเซี่ยน ลี่กัง ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจีน กล่าวว่า จากรูปการณ์ที่เห็นมีความเป็นไปได้ว่า อุบัติเหตุไฟชอร์ตมาจากปัญหาอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ปลอม เพราะอุปกรณ์ชาร์จที่เลียนแบบ อาจลดคุณภาพของวัสดุ ชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ที่นำมาประกอบ ตัวเก็บประจุ และอุปกรณ์ประกันความปลอดภัย ก็อาจไม่สมบูรณ์ ทำให้ไฟไหลพรวดเข้าไปในตัวประจุของอุปกรณ์ชาร์ตแบต ไฟ 220 โวลต์ ทะลักเข้าไปยังแบตเตอรี่โทรศัพท์โดยตรง แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง โดยตามที่พวกเราทราบกัน คือ ญี่ปุน ไต้หวัน ฮ่องกง ใช้แรงดันไฟ 110 โวลต์
ส่วนที่จีนใช้ 220 โวลต์ ถ้าอุปกรณ์ชาร์จแบตเป็นมาตรฐาน 110 โวลต์ ดังนั้น
ความสามารถของ โวลต์ในการรับไฟ ก็จะอ่อนลงมาก และอาจทำให้เกิดไฟทะลักเข้าไปได้
ขอบคุณที่มา : MThai News

 
 

เกิดเหตุไฟไหม้อาคารชำแหละไก่ของบริษัทสหฟาร์ม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่ช่วยกันสกัดเพลิงท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาพอดี สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

23.50 น.(7 ก.ค.)  ร้อยตำรวจโท ชาญวุฒิ เรืองจาบ ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรม่วงค่อม อำเภอชัยบาดาล ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่บริษัทสหฟาร์ม บริเวณโรงงานผลิตไก่แช่แข็งในทางที่ใช้ลำเลียงสินค้าโดยประสานงานรถดับเพลิงจาก อบต.ห้วยหิน เจ้าของพื้นที่กับพื้นที่ใกล้เคียงระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ช่วยกันสกัดเพลิงซึ่งกำลังลุกไหม้ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปรายมาพอดี ทำให้การดับเพลิงง่ายขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ และควบคุมไม่ให้ลุกลามไปติดอาคารโรงงานใกล้เคียง ซึ่งอาคารโรงงานที่ถูกเพลิงไหม้กรุด้วยฉนวนกันความร้อนเพื่อเก็บความเย็น ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความลำบาก และถูกเพลิงไหม้เสียหลายเกือบหมดทั้งหลัง ต่อมา นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายอำเภอชัยบาดาล เดินทางมาอำนวยความสะดวกในการดับเพลิง และตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ตำรวจตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เบื้องต้นตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ไฟฟ้าลัดวงจร กับการวางเพลิง เพราะเคยมีแรงงานชาวต่างชาติที่ยังไม่ได้รับค่าจ้างเคยขู่ไว้
นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ยังสั่งให้ทางอำเภอม่วงค่อมนำรถน้ำเข้าประจำการไว้ในโรงงานตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรตรวจตรา รอบละ 5 นาย ตลอดทั้ง 7 วันนี้ หลังจากที่เพิ่งถอนกำลัง เมื่อเย็นวานนี้ก็มาเกิดเหตุเพลิงไหม้ พร้อมให้กำลังอีกส่วนดูแลแรงงานต่างด้าวทั้งแรงงานชาวพม่า และกัมพูชา อย่างใกล้ชิดว่าทยอยเดินทางกลับจำนวนเท่าใด ส่วนที่ยังไม่กลับก็สั่งร้านค้าให้งดจำหน่ายสุราให้ในช่วงนี้ หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษอย่างเด็ดขาดทันที
ขอบคุณที่มา : ครอบครัวข่าว 3

 
 

ไฟไหม้รง.พลาสติกอัดเม็ดวอดกลางดึก

เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น. พ.ต.ท.ณรงค์ เพชรทอง  พนักงานสอบสวน  สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่โรงงานพลาสติก ริมถนนมาลัยแมนสาย
นครปฐม-สุพรรณบุรี หมู่ 3 ต.สระยายโสม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจสอบ
พร้อม นายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ นายอำเภออู่ทอง พ.ต.อ.ชาติชาย นาคะสุวรรณ ผกก.นำรถดับเพลิงจากเทศบาล และอบต. ต่างๆ ในพื้นที่ และขอสนับสนุน จากพื้นใกล้เคียงและรถโฟมกรุงเทพ เกือบ 30 คันไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าไฟกำลังโหมลุกไหม้โรงงานรับซื้อและจำหน่ายพลาสติกอัดเม็ด
ชื่อโรงงานเฮงพลาสติก เลขที่ 489 หมู่ 3 ตำบลสระยายโสม อย่างรุนแรง คนงานของโรงงาน
ต่างพากันขนย้ายข้าวของกันจ้าละหวั่น และเพลิงกำลังลุกลามเข้าไปโรงงานพลาสติก ทรัพย์ทวีพลาสติก เลขที่ 16/2 ซึ่งอยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำสกัดใช้เวลา กว่า 2 ชั่วโมงยังไม่สามารถดับเพลิงได้ แต่ควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดขณะเจ้าหน้าที่กำลังฉีดน้ำ
ดับอยู่ได้มีเสียงระเบิดของถังแก๊สขึ้นเป็นระยะ และโรงงานเฮงพลาสติกถูกไฟเผาวอดเสียหาย
ทั้งหมดแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย และบาดเจ็บ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า โรงงานดังกล่าวมีนางนางสุนทรี แซ่เฮง
เป็นเจ้าของเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ไร่กว่า รับซื้อเศษถุงพลาสติกเก่าทุกชนิด
จำหน่ายเม็ดพลาสติก PE HD PP และถุงใส่ขยะทุกไซด์ ขณะเกิดเหตุเจ้าของโรงงานได้
นอนพัก อยู่ที่บ้านพักในโรงงานและคนงานกว่า 10 คนกำลังทำงานกันอยู่แล้วเกิดไฟลุกไหม้ ที่กองพลาสติก อย่างรวดเร็วคนงานที่กำลังทำงานวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่นบางคนที่พอมีสติ
ก็ช่วยกันเก็บข้าวของออกมาไว้ที่ริมถนน อย่างทุลักทุเล พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับแต่ไม่สามารถดับได้  ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมเพลิง
ให้อยู่ในวงจำกัดเนื่องโรงงานแห่งนี้มีถุงพลาสติก และพลาสติกอัดเม็ดจำนวนมาก
ซึ่งเป็นเชื้อเพลิง อย่างดีพร้อมทั้งรถยนต์ เครื่องจักรต่างๆ อีกจำนวนมากได้ถูกไฟไหม้
เสียหายทั้งหมดส่วนสาเหตุและความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมิน
ได้ต้องรอให้เพลิงสงบจะได้ประสาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมตรวจสอบและประเมินความเสียหายได้
ขอบคุณที่มา : คม ชัด ลึก

 
 

คานปูนถล่มทับคนงานเจ็บ 9 คน

 
ตำรวจ สภ.หนองขาม พร้อมหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา เข้าให้การช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บ 9 คนส่งโรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดเป็นคนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 คน บาดเจ็บสาหัส 4 คน
ในที่เกิดเหตุเป็นสะพานต่างระดับใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 1  ตำบลหนองขาม  อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและกำลังเทพื้นปูน  เพื่อเชื่อมกับถนนทางหลวงพิเศษสาย  7  ตอน 2 ระหว่างหนองขามกับถนนสายอินโดจีน  โดยคนงานเล่าว่า  ขณะเทพื้นปูนอยู่กับเพื่อนคนงานกว่า 20 คน ได้ยินเสียงดังลั่นก่อนที่สะพานจะถล่มลงมา   คนงานบางคนหนีทันก็โดดขึ้นไปอยู่อีกฟากของสะพานที่ไม่ถล่ม  ส่วนสาเหตุอาจเกิดจากคานที่รับน้ำหนักไม่ไหว ซึ่งจะต้องสอบสวนผู้รับเหมาอีกครั้ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการค้นหาใต้ซากสะพาน ว่าจะมีผู้รอดชีวิตหรือเสียชีวิตอีกหรือไม่
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 

ไฟไหม้รถบัสรับ-ส่งพนักงาน วอดทั้งคัน

 

เกิดเหตุไฟไหม้รถบัสรับ-ส่งพนักงาน ระหว่างเดินทางไปที่ย่านอุตสาหกรรมไฮเทคบางปะอิน รถถูกเผาวอดทั้งคัน ส่วนพนักงาน 60 ชีวิต ปลอดภัย ส่งผลให้การจราจรบนถนนพหลโยธินขาออกติดขัดเหตุเกิดเมื่อ 06.30 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) ขณะรถรับ-ส่งพนักงานดังกล่าวแล่นมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ถนนพหลโยธินขาออก  ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
นายบุญเส็ง แช่โง้ว อายุ 52 ปี  คนขับรถ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถไปรับ พนักงานชาย-หญิง ประมาณ 60 คนที่ย่านหลักสี่ เพื่อไปส่งที่โรงงานฮาน่า ย่านนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นไหม้มาจากห้องเครื่อง จึงได้จอดรถช่องทางด่วนเลนซ้ายให้พนักงานรีบลงจากรถ และได้แจ้งบริษัทให้นำรถมาเปลี่ยนใหม่ หลังจากพนักงานทั้งหมดลงจากรถแล้ว จึงขับรถออกมาได้พักเดียวก็เกิดเพลิงลุกไหม้ห้องเครื่องทันทีและลุกลามไหม้วอดทั้งคันอุบัติเหตุดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรช่องทางด่วนขาออก เนื่องจากรถบัสคันนี้ได้ติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีจำนวน 7 ถัง อาจเกิดระเบิดขึ้นได้ จึงทำให้ถนนพหลโยธินขาเข้าที่ยังเคลียร์รถบรรทุกเหล็กร่วงขวางถนนยังไม่เสร็จ ในส่วนขาออกก็มามีรถบัสพนักงานไฟไหม้อีก จึงทำให้ช่องทางด่วนถนนพหลโยธินติดขัดทั้งขาเข้าและขาออก วิ่งได้ทางคู่ขนานเท่านั้น
ขอบคุณที่มา : ครอบครัวข่าว 3

 
 

เครนก่อสร้างคอนโดเพชรเกษม หล่นทับคนงานดับ 2 ศพ

สยอง! เกิดเหตุ เครนก่อสร้าง คอนโดมิเนียม ศุภาลัยปาร์ค ย่านเพชรเกษม ใกล้ มหาวิทยาลัยสยาม หักลงมาทับ คนงานเสียชีวิต 2 รายเกิดเหตุ เครนก่อสร้าง
คอนโดมิเนียม ศุภาลัยปาร์ค ที่ตั้งอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 25/3 ย่านภาษีเจริญ ฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัยสยาม หักลงมาทับคนงานเสียชีวิต 2 คน ยังไม่ทราบชื่อ ไม่มีผู้บาดเจ็บและยังทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหายในส่วน
ของกำแพงและกระจกแตกทั้งสิ้น 4 ชั้น ตำรวจได้กั้นพื้นที่รอแพทย์และ
กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ สำหรับ คอนโดดังกล่าว สูง 36 ชั้น ก่อสร้างไปแล้ว
ประมาณ 80% เกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงตกแต่งบางส่วน โดยเครนดังกล่าวอยู่บนดาดฟ้าอาคารด้านหลัง ลักษณะเป็นเครน แบบบูมกระดก ใช้ยกของขึ้นลงอาคาร โดยเครนดังกล่าวมี 2 กระบะ ใช้ตักปูนขึ้นไปฉาบด้านบนอาคาร ขณะเกิดเหตุจังหวะที่ดึงเครนขึ้น ทำให้เกิดการเหวี่ยงจนดึงสลิงขาด
เครนร่วงหล่นมาทับคนงาน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ขอบคุณที่มา : สำนักข่าว ไอ เอ็น เอ็น

 
 

โรงงานพลุไฟดอกไม้เพลิงแคนาดาระเบิด

 

สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานจากเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ว่า เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง นานหลายชั่วโมง ที่โรงงานผลิตพลุไฟดอกไม้เพลิงชื่อ บี.อี.เอ็ม. ในเมืองกอโต-ดู-ลัก รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ห่างจากเมืองใหญ่มอนทรีออล ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 50 กม. เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันพฤหัสบดี แรงระเบิดดังกึกก้องได้ยินไปไกลหลายกิโลเมตร พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เป็นคนงานของโรงงานแห่งนี้

เจ้าหน้าที่เผยว่า โรงงาน บี.อี.เอ็ม. ออกแบบและผลิตพลุไฟดอกไม้เพลิง มีประสบการณ์มานาน 25 ปี การระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (20.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) และระเบิดติดต่อกันหลายชั่วโมงหลังจากนั้น ส่งผลให้โกดังหลังแรกพังทลายราบ และหลังใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงระเบิดตาม หน่วยกู้ภัยท้องถิ่นต้องอพยพผู้ที่อยู่ในโรงงานหลายสิบคนออกพ้นพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งปิดการสัญจรบนถนนทางหลวง สายเชื่อมต่อ มอนทรีออล-โครอนโต และระงับการวิ่งรถไฟโดยสารสาย มอนทรีออล-ออตตาวา เป็นการชั่วคราว เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้ต่อไป.

 
 

ประเทศสิงคโปร์ เตือน ดัชนีมลพิษทางอากาศยกระดับอันตรายขึ้น – เรียกประชุมฉุนเฉินร่วมอินโดฯ ด่วน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในวันนี้ (20 มิ.ย.) รัฐบาลสิงคโปร์ ออกมาประกาศเตือน
ประชาชนว่า หมอกควันในพื้นที่ของสิงคโปร์ ได้เปลี่ยนแปลงยกระดับความเสี่ยงอันตรายมาก
ขึ้นอีกครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) รัฐบาลย้ำเตือนถึงปัญหา
สุขภาพของ ประชาชนเนื่องจาก ดัชนีมลพิษทางอากาศตามมาตรฐาน (PSI) ระบุเพียง 371 แต่ขณะนี้ดัชนีประมวลผลออกมาทำลายสถิติเรียบร้อยแล้วจึงกลายเป็นเรื่องน่าวิตก
กังวลใจของรัฐบาล เกี่ยวกับปัญหาหมอกควัน ที่เกิดมาจากการภาวะไฟไหม้ป่าบน
เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่รุนแรงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายนั่นเอง
ล่าสุด นายแอนดรู แทน (Andrew Tan) หัวหน้าผู้บริหารสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ของสิงคโปร์ พร้อมคณะ ผู้แทน เรียกร้องให้มีการประชุมภาวะฉุกเฉิน โดยมี อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมที่จาการ์ตา เมือง
หลวงของอินโดนีเซีย เพื่อระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

 
 

ไฟไหม้โรงงานสี จ.สมุทรสาคร

เกิดไฟไหม้โรงงานสีใกล้วัดโพธิ์แจ้ ถนนเอกชัย จังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด
เปลวเพลิงที่สูงกว่าตึก 4 ชั้นท่ามกลางเสียงระเบิดเป็นระยะเกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงงานเก็บสี
และวัสดุอุกรณ์ในการผสมสี ตั้งอยู่ที่ซอยกลิ่นสุวรรณ ถนนเอกชัย ใกล้วัดโพธิ์แจ้
  จังหวัดสมุทรสาคร โดยเพลิงลุกไหม้ที่ห้องเก็บวัสดุไวไฟ อาทิ ทินเนอร์ น้ำมัน และสี เปลวเพลิงโหมรุนแรง สูงกว่าตึก 4 ชั้น ทำให้พนักงานและชาวบ้านละแวกนั้น ต่างแตกตื่นวิ่งหนีตายกันโกลาหล และบริเวณดังกล่าวมีโรงงานตั้งอยู่ติดกันหลายโรง พร้อมบ้านเรือนประชาชนอีกจำนวนมาและลมแรงมาก ทำให้หวั่นว่าจะลุกลามไปมากกว่านี้ มีเสียงระเบิดดังสนั่นเป็นระยะๆ สร้างความตื่นกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ส่วนสาเหตุที่มีเสียงระเบิดนั้น เนื่องจากภายในโรงงานมีการเก็บทินเนอร์ขนาด 200 ลิตร จำนวน 100 ถัง จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เปลิวไฟลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงระดมรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงร่วม 100 คัน
ฉีดน้ำสะกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังที่อื่นนาน 2 ชั่วโมงกว่า จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ขณะเกิดเหตุ นายจุลภัทร์ แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อม พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ
ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่ออำนวยความสะดวก
และหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับ ผลกระทบจากมลภาวะที่เกิดจากไฟไหม้ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้และค่าเสียหายอยู่ระว่างการสอบสวน

ด้าน นายอภิมุข อุสันเทียะ อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตของโรงงานดังกล่าว บอกว่า
บริษัทแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตทินเน่อร์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุไฟได้ลุกไหม้ขึ้นในถังโซแว๊น ซึ่งตั้งอยู่ในห้องผลิต ช่วงที่มีการบรรจุจากถังที่มีน้ำหนักประมาณ 2 ตัน ถ่ายเข้าถังบรรจุขนาด 200 ลิตร
ดังนั้น ตนจึงไปหยิบถังดับเพลิงมาฉีด แต่ปรากฏว่าเอาไม่อยู่ ไฟได้กระจายไปโดยรอบ ตนเองและพนักงานจึงวิ่งหนีกันออกมา พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้

เบื้องต้น คาดค่าเสียหายหลายล้านบาท ส่วนเจ้าของโรงงานขณะเกิดเหตุยังไม่ได้เข้ามาที่โรงงาน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเรียกเจ้าของโรงงาน มาสอบ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองวิทยาการ มาตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป.
ขอบคุณที่มา : ครอบครัวข่าว 3

 
 
ผงคาร์บอนโรงงานฟุ้งกระจายติดบ้านชาวบ้าน

 

ชาวบ้านในตำบลหัวไผ่  อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง  ได้ใช้มือและเท้าสัมผัส  ตามฝาผนัง และม้านั่ง  บริเวณบ้านจนเปื้อนไปด้วยสีดำ   ซึ่งชาวบ้านระบุว่า  เกิดจากผงคาร์บอนที่ถูกปล่อยจากโรงงานแห่งหนึ่ง  ที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน  ขณะนี้มีชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว กว่า  180  หลัง
ชาวบ้านเล่าว่า  ผงคาร์บอน  ได้ลอยออกมาจากปล่องของโรงงาน  หากซักเสื้อผ้าตากไว้ก็จะถูกเขม่าจนเป็นสีดำ แม้แต่พื้นบ้าน  หรือตามฝาผนัง ก็จะเป็นคราบสกปรก 
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น  นายวิสุทธิ  จิรภากร  ผู้จัดการบริษัทไทยคาร์บอน  ก็ได้ออกมายอมรับว่า  เขม่าสีดำ  เกิดจากเครื่องอบแห้ง  ที่มีแรงดันสูงและแรงดันเพิ่มมากขึ้น  ทำให้เขม่าของผงคาร์บอนที่อยู่ในปล่องควันพุ่งออกมา  จนเขม่าไปติดตามบ้านเรือนชาวบ้าน  โดยหลังจากนี้จะเร่งแก้ไขเครื่องอบแห้งต่อไป 
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 

กระทรวงแรงงาน เข้ม นายจ้าง ลูกจ้าง หวังขจัดการใช้แรงงานเด็ก ที่ทำงานรับใช้ในบ้าน เนื่องในวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก

กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดโครงการยุติการใช้แรงงานเด็ก 
ในรูปแบบของคนรับใช้ในบ้าน ภายใต้แนวคิด “NO TO CHILD LABOUR IN DOMESTIC  WORK” เนื่องในวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก มุ่งสร้างความรู้ ความเข้าใจกับนายจ้าง ลูกจ้าง เกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็กอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อร่วมกันป้องกันและยุติปัญหาการใช้แรงงานเด็กในการทำงานรับใช้ในบ้าน ในวันพุธที่ ๑๒
มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ปาร์ค ดินแดง กรุงเทพมหานคร
นายอนุสรณ์ ไกรวัฒนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวในฐานะประธาน
เปิดงานว่า ประเทศไทยมีความพยายามที่จะแก้ปัญหาการใช้แรงงานเด็กมาอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการที่ได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาILO ฉบับที่ ๑๘๒ ที่มีใจความสำคัญ คือ การกำหนดรูปแบบการใช้แรงงานเด็ก ในสภาพที่เลวร้ายและแนวทาง
หรือมาตรการที่ทุกประเทศต้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนทันที
และอนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๑๘๙ ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับคนทำงานบ้าน
ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว กระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก
ที่รับผิดชอบ ในการคุ้มครองแรงงานเด็กให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายและได้รับ
การส่งเสริมพัฒนา ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้ออกกฎกระทรวง  ฉบับที่ ๑๔ ที่มีบทบัญญัติห้ามนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปีเป็นลูกจ้างทำงานในบ้าน
ทั้งนี้ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก
นับเป็นโอกาสดีที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนองค์กรสาธารณะที่เกี่ยวข้อง ต้องหันมาให้ความสำคัญต่อ ประเด็นปัญหาดังกล่าว และประสานความร่วมมือกัน
เพื่อแสดงถึง ความมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ อันที่จะขจัดการใช้แรงงานเด็กที่เลวร้าย ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกจ้างทำงานบ้าน ซึ่งจะต้องเริ่มจากการรณรงค์ป้องกัน
ไม่ให้เด็กเข้าสู่ตลาดแรงงานก่อนวัยอันสมควร สร้างโอกาสและทางเลือกในการศึกษา
เพื่อให้มี ความพร้อมก่อนจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน ไม่ถูกหลอกลวงหรือชักจูงไปในทางเสื่อมเสีย และเมื่อเด็กเข้าทำงานแล้วก็ต้องได้รับการคุ้มครอง ดูแลให้ได้รับค่าจ้าง ค่าตอบแทน ตลอดจนสวัสดิการตามกฎหมายและมีสภาพการทำงานที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้ปัญหาการใช้แรงงานเด็กของประเทศไทยคลี่คลายและหมดไปในที่สุด และหาก   พบเห็นการใช้แรงงานเด็กที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งได้ที่ สำนักคุ้มครองแรงงาน 
ดินแดง กทม, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด, กลุ่มงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ ๑๐ พื้นที่  ในเขตกทม. หรือโทร. ๑๕๔๖ สายด่วนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ในวันและเวลาราชการ
ขอบคุณที่มา : กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

 
 

ไฟไหม้ตู้เก็บสารเคมีในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค สระบุรี

ช่วงค่ำเกิดเหตุระเบิดมีไฟลุกไหม้ที่ตู้เก็บสารเคมีแอมโมเนียมฟอลไฟด์ เป็นสารกำจัดมอด เป็นขนาดเล็ก ในบริษัทเอบ้า บางกอก บริษัทบรรจุข้าวสารแฟคใส่ถุงและเกิดเป็นสารพิษ ทำให้คนงานชายคนหนึ่งสูดสารเข้าไป ได้รับบาดเจ็บ แน่นหนาอก กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลหนองแค ปลอดภัยแล้ว โดนทางพนักงานที่ทำงานเข้า
กะอยู่ประมาณ 5-6 คน ช่วยกันใช้ถังเคมีดับเพลิง และใช้รถดับเพลิง
โดยใช้โฟมดับและควบคุมกันสารพิษระเหยอยู่ในระดับหนึ่ง
นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี รุดมาที่เกิดเหตุ สั่งคุมเข้มใช้รถดับเพลิง โฟมอีกคันช่วยฉีดคุมพื้นที่ดังกล่าว กันก๊าซพิษรั่วไหลอันตราย สารดังกล่าวใช้สำหรับป้องกันแมลงต่างๆ โดยเฉพาะมอด มากัดกินข้าวสาร คาดว่าสารดังกล่าวเก็บในตู้แล้วเกิดความร้อนจัดจนเกิดเพลิงไหม้ในตู้ ในวงที่กำจัด จึงสารถควบคุมก๊าซได้
ขอบคุณที่มา : Breaking news

 
 

ระทึก! ช่วย 2 พนักงานเช็ดกระจก ติดนอกตึก ที่ความสูง 150 เมตร

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระทึกเมื่อ พนักงานเช็ดกระจก 2 ราย เกิดค้างอยู่บนนั่งร้านบนชั้น 44 ของอาคารเฮียสต์ ทาวเวอร์ ย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาคลิประทึก! ช่วย 2 ทั้งนี้พนักงานดับเพลิงกว่า 60 คน ต้องระดมกำลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ช่วยกันตัดกระจกชั้น 44 ที่ความสูงกว่า 150 เมตร เพื่อนำตัวพนักงานเช็ดกระจกทั้ง 2 นายกลับเข้ามาในตัวอาคารได้อย่างปลอดภัยในที่สุด
ขอบคุณที่มา : MThai News

 
 

ระทึก!ไฟไหม้ รง.ประกอบจยย.เด็กนักเรียนหนีตายอลหม่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเพลิงไหม้โรงงานประกอบรถจักรยาน ภายในซอยสาธุประดิษฐ์ 28 ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนสารสาสน์พิทยา ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
ปลูกติดกัน 3 คูหา เปิดเป็นโรงงานประกอบจักรยาน ภายในซอยสาธุประดิษฐ์ 28 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา        
โดยต้นเพลิงอยู่ชั้น 4 ซึ่งเป็นที่เก็บวัสดุและอุปกรณ์ที่เป็นเชื้อเพลิง ประกอบซอยดังกล่าวเป็นซอยแคบ รถดับเพลิงจึงเข้าไปดับไฟด้วยความยากลำบาก จึงมีควันไฟพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ โรงเรียนสารสาสน์พิทยาที่อยู่ติดกัน เกรงเพลิงจะลุกลามจึงรีบอพยพเด็กนักเรียนออกมาได้ทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
ขอบคุณที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์

 
 

วันต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก


12 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก  ซึ่งกระทรวงแรงงานเร่งคุมเข้มนายจ้าง ลดการใช้แรงงานเด็กที่ทำงานรับใช้ในบ้าน เสี่ยงถูกเอาเปรียบและเหยื่อค้ามนุษย์ 
นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน
กล่าวถึงสถานการณ์การใช้แรงงานเด็ก เนื่องในวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลกว่า ปัจจุบันปัญหาการใช้แรงงานเด็กมีอยู่ทั่วโลก จากข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ พบว่าการจ้างแรงงานเด็กมีกว่า 15.5 ล้านคน เพื่อไปเป็นลูกจ้าง  ซึ่งมีความเสี่ยงที่เด็กจะถูกเอารัดเอาเปรียบและอาจตกเป็นเหยื่อของการ
ค้ามนุษย์ที่แอบแฝงกับการจ้างงาน   โดยส่วนใหญ่ลูกจ้างทำงานบ้านมักเป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 72   โดยไทยมีกฎหมายห้ามนายจ้าง จ้างลูกจ้างที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี  สำหรับแนวทางการรณรงค์ปีนี้ มุ่งไปที่โครงการยุติการใช้แรงงานในรูปแบบของคนรับใช้ ภายใต้แนวคิด NO TO CHILD LABOUR IN DOMESTIC WORK  มุ่งหวังทุกภาคส่วนร่วมต่อต้าน ป้องกันเด็กเข้าสู่ตลาดแรงงานก่อนวัยอันควร โดยหากพบเห็นการใช้แรงงานเด็กที่ผิดกฎหมาย
สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนเพื่อผู้ใช้แรงงาน 1556
ขอบคุณที่มา : ททบ 5

 
 

โรงไฟฟ้าก๊าซรั่วสาเหตุผู้รับเหมาบกพร่อง
 
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางไปตรวจสอบโรงไฟฟ้าพลังชีวมวล
บริษัท อีโค่เอ็นเนอร์ยี่  อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง หลังเกิดก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์
รั่วจากเครื่องผลิตก๊าซชีวมวลขณะติดตั้งระบบและทดลองเดินเครื่องเป็นเหตุให้มีวิศวกร
ชาวนิวซีแลนด์และพนักงานคนไทยเสียชีวิต 2 คน และผู้ไดรับบาดเจ็บอีก 2 คน เหตุเกิดเมื่อ
วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาจากการตรวจสอบพบว่าบริษัท รีนิวเวเบอร์พลัส จำกัด ของประเทศมาเลเซีย เป็นบริษัทผู้รับเหมาติดตั้งระบบทั้งหมด แต่ระหว่างทดลองเดินเครื่องเครื่องจักร 1 ใน 3 เครื่อง เกิดขัดข้องเนื่องจากเชื้อเพลิงที่ใช้ซึ่งเป็นท่อนไม้ที่คนงานป้อนเข้าไปเกิดในหอป้อนเศษ
ไม้ทำให้ลิ้นปิด เปิดค้างก๊าซ จึงรั่วไหลออกมาทำให้พนักงานที่อยู่ใกล้เคียงสูดดมควันเข้า
ไปจนหมดสติ เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดพลาดของบริษัทผู้รับเหมาติดตั้ง จึงให้ยุติการทดสอบ
เครื่องจักรเอาไว้ก่อน เพื่อแก้ไขปรับปรุงระบบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก ส่งผลให้ต้องเลื่อนกำหนดการเปิดโรงไฟฟ้าแห่งนี้ จากวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 

เร่งตรวจสอบโรงไฟฟ้าในจังหวัดตรังที่เกิดก๊าซรั่ว

นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง
ได้ไปตรวจสอบที่โรงผลิตไฟฟ้าพลังชีวมวลของบริษัท แพลนอีโคเอ็นเนอร์ยี่ เลขที่ 10 หมู่ 2
ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง  หลังเกิดก๊าซรั่วจนทำให้ นายไมเคิล คอปปิ้นส์
วิศวกรชาวนิวซีแลนด์ และ นายรถ สิงห์ดำ เจ้าหน้าที่ควบคุมงาน เสียชีวิต
นอกจากนี้ยังมีคนงานได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่าเหตุเกิดระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและทดสอบเดินเครื่องทำให้
ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์รั่วออกมา จากเครื่องเนื่องจากเกิดการสะสมของเศษไม้ยางพารา
และขี้เลื่อยในปล่องไซโลระบายอากาศ จึงสั่งให้โรงไฟฟ้ารายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เพื่อหาทาง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก สำหรับโรงผลิตไฟฟ้าชีวมวลแห่งนี้
บริษัท รีนิวเวเบอร์พลัส ประเทศมาเลเซีย เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งซึ่งมี
บริษัทแม่อยู่ที่ประเทศอินเดีย โดยบริษัท พาราวีเนียร์ 2002 จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ได้มีโครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยการนำเศษไม้ยางพาราที่เหลือมาเป็นวัตถุดิบผลิตกระแสไฟฟ้า
จำหน่ายเข้าระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแต่มาเกิดอุบัติเหตุจน
ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์รั่วขณะ ติดตั้งและทดลองเดินเครื่อง ถือเป็นความผิดพลาดครั้งแรกของโลกที่เกิดขึ้นในโรงผลิตไฟฟ้าพลังชีวมวลแห่งนี้
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 


ไฟไหม้โรงงานผลิตวงกบประตู จ.ปทุมธานี

 
เหตุกลางกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ลำลูกกา รุดตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงเลื่อยจักรสมนึก - จันทนา หมู่ที่ 11  ตำบลลำลูกกา  อำเภอลำลูกกา พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลลำลูกกา และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน ไปยังที่ยังที่เกิดเหตุ และระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้   ซึ่งพบว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นโรงไม้ทำวงกบประตู - หน้าต่าง ต้นเพลิงเกิดขึ้นจากสายไฟฟ้าด้านหลังเครื่องจักรลัดดวงจร ทำให้เกิดไฟไหม้สายไฟฟ้า และลูกไฟหล่นลงไปไหม้ติดกับกองไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้อบใช้เวลานานนับชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด
ส่วนสาเหตุที่แท้จริง และค่าเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจลำลูกกา
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 

เร่งสอบสาเหตุก๊าซรั่วโรงไฟฟ้าชีวมวล จ.ตรัง

 
เจ้าหน้าที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปยังโรงพยาบาลย่านตาขาว จังหวัดตรัง เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุก๊าซรั่วภายในโรงไฟฟ้าพลังชีวมวลที่บ้านหมู่ 2
ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว เหตุเกิดเมื่อวานนี้ ทำให้ นายไมเคิล ค๊อกซิน อายุ 36 ปี
วิศวกรชาวนิวซีแลนด์ และ นายชวลิต สมนอก อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ควบคุมระบบ เสียชีวิต หลังจากสูดดมก๊าซเข้าไปซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนงานพยายามเข้าไปช่วยนายไมเคิล
และนายชวลิตและสูดดมก๊าซพิษ เข้าไปด้วยทำให้หมดสติไปอีก 2 คน แต่ก็ช่วยชีวิตได้ทัน
วันนี้ นายธีรยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรม
จังหวัดตรัง ได้เข้าไปตรวจสอบในโรงไฟฟ้าหลังจากควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว ส่วนสาเหตุเชื่อว่ามาจากก๊าซแอมโมเนียรั่ว แต่ยังไม่ทราบจุดเกิดเหตุในโรงงานที่แน่ชัด โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้อยู่ระหว่างติดตั้งระบบเพื่อเปิดดำเนินการในปีหน้า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบโรงงานอย่างละเอียดก่อน
เพื่อหาสาเหตุของการเกิดก๊าซรั่วครั้งนี้
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี

 
 
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท จตุพร รีไซเคิลน้ำมัน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
 
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2556 นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมและโฆษก
กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะผู้บริหารฯ และอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ
ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัทจตุพรรีไซเคิล จำกัด หลังเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้
ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 118/5 หมู่ที่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ บริษัทจตุพรฯ
เป็นบริษัทรับกำจัดและรีไซเคิลกากอุตสาหกรรม โดยเฉพาะน้ำมันที่ใช้แล้ว  
          จากการตรวจสอบทราบว่าโรงงานได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้เป็น
อย่างมากและสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนในเขตพื้นที่บริเวณนั้น
จึงมีคำสั่งให้บริษัทจตุพรรีไซเคิล จำกัด หยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมดและ
ให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 
ขอบคุณที่มา : กรมโรงงานอุตสาหกรรม
 
 

เพลิงไหม้อาคารวีรสุ ถนนวิทยุ ซอย1 ซึ่งมีคนติดอยู่ภายใน แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือได้ปลอดภัยแล้ว
ล่าสุดสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้กระเช้าลอยฟ้าในการฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงที่บริเวณชั้น 3 ของอาคารวีรสุ ถนนวิทยุ ซอย 1 ซึ่งคาดว่าเป็นชั้นต้นเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังชั้นต่างของตัวอาคาร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด แต่เพลิงยังไม่ดับสนิท ขณะเดียวกันก็สามารถช่วยผู้ที่ติดอยู่ในอาคารออกมาได้อย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ได้ฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้สัญจรหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนวิทยุ เพราะมีปริมาณรถหนาแน่น และมีเศษกระจกของอาคารแตกกระเด็นตกลงมาบนพื้นถนน เป็นระยะจึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย
ขอบคุณที่มา : สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส Thai PBS

 
 
ผอ.จตุจักร ยันอาคารไฟไหม้พหลฯ26 มีระบบป้องดับเพลิง


นายนพกิจ  สัญญานุกิจ ผู้อำนวยการเขตจตุจักร  เปิดเผยถึงกรณีเพลิงไหม้ พัสเฟซแบงค์คอก
โฮเต็ล แอน เรสซิเดนซ์ ซอยพหลโยธิน 26 ว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น
นั้นพบว่าอาคารมีระบบป้องกันอัคคีภัยตามปกติ แต่ไม่มีผู้อาศัยหรือเจ้าหน้าที่นำมาใช้ในการดับเพลิงแต่อย่างใด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รายงานว่าไม่มีผู้ดูแลหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตึกมาทำการ
ดับเพลิงขณะกำลังลุกไหม้ และในอาคารที่สูงไม่เกิน
23 เมตรก็ไม่จำเป็นต้อมีสปริงเกอร์ดับไฟในห้อง จึงไม่สามารถดับไฟได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามา ดำเนินการโยใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ   
นอกจากนี้กรณีไฟไหม้ดังกล่าวไม่กระทบ กับโครงสร้าง ของอาคารแต่อย่างใดเนื่องจากเป็นไฟไหม้ใน ห้องพักส่วนตัวจึงไม่ได้ส่งผลกับโครงสร้าง
อย่างไรก็ตามตนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ
อย่างชัดเจนอีกครั้งแต่ที่ผ่านมาเขตได้ทำการตรวจสอบอาคารอยู่เป็นระยะอยู่แล้วจึงไม่น่าจะ
มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน
ขอบคุณที่มา : http://www.dailynews.co.th/bkk/210150
 
 
ครู-นักเรียนป่วย โรงงานปล่อยสารพิษ


ครูโรงเรียนวัดโพธิ์ทูล หมู่ที่ 3 ตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมืองอ่างทอง และเด็กนักเรียนต่างต้องดมกลิ่นเหม็นจากโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบพบว่าเด็กนักเรียนต้องใช้ผ้าปิดจมูกเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็น ในห้องเรียนก็ต้องปิดประตูหน้าต่างเรียน เพราะทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว                    
โดยเฉพาะในช่วงอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ควันจากปล่องควันโรงงานจะลอยต่ำ   ทำให้กลิ่นเหม็นเพิ่มขึ้นจนแสบจมูก ครู นักเรียน รวมทั้งชาวบ้าน โดยเฉพาะบริเวณหมู่ที่ 3  ตำบลจำปาหล่อ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางคืนถึงกับนอนไม่ได้ เด็กบางคนล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ผิวหนังเป็นผื่นขึ้น  จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบดูแล และแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย
ขอบคุณที่มา : ข่าวช่อง 7 สี
 
 
จีน..ไฟไหม้โรงงานไก่ดับ 119 ศพ



จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานชำแหละไก่ในจีน เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 119 คน ขณะที่ทางการต้องอพยพประชาชน 3 พันคนหนีเพื่อความปลอดภัย
เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดที่โรงงานชำแหละไก่ ใกล้เมืองเต๋อฮุ่ย ในมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 119 คน บาดเจ็บอีก 60 คน และมีผู้สูญหายที่ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัดอีกหลายคน 
ตำรวจคาดว่า สาเหตุอาจจะเกิดจากก๊าซแอมโมเนีย ที่ใช้ทำความเย็นรั่ว ทำให้เกิดการระเบิด รัฐบาลท้องถิ่นต้องส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 500 นาย รวมถึงแพทย์และพยาบาล มากกว่า 270 คน ไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับอพยพประชาชนประมาณ 3,000 คนในพื้นที่โดยรอบ ออกมาเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน 
คนงานที่ติดอยู่ในโรงงานตอนที่เกิดระเบิดเล่าว่า เห็นแสงสว่างวาบขึ้นตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น จากนั้นก็เกิดไฟไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนพากันแตกตื่นวิ่งหนีเอาตัวรอด โดยขณะที่เกิดเหตุ มีคนงานประมาณ 350 คนอยู่ในโรงงาน และประตูทางออกเกือบทุกด้านถูกใส่กุญแจล็อคไว้หมด เพื่อป้องกันคนงานเข้าออก ยกเว้นประตูข้างบานเดียว ขณะที่ทางเดินภายในโรงงานก็คับแคบ และวางของทิ้งไว้เกะกะ ทำให้ยากแก่การหลบหนี 
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามในการกู้ภัยอย่างเต็มที่ และระบุว่ามีการสอบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้อย่างจริงจัง 
ขอบคุณที่มา : ครอบครัวข่าว 3
 
 
แท่งเหล็กสร้างรถไฟฟ้าหล่นทับรถพัง 4 คัน เจ็บ 1 คน

 

กรุงเทพฯ 6 มิถุนายน 2556  เกิดเหตุแท่งเหล็กยาวถึง 10 เมตร ร่วงจากจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ทำให้รถเสียหาย 4 คัน มีผู้บาดเจ็บ 1 คน
เหตุเกิดเมื่อประมาณ 09.30 น. ขณะคนงานก่อสร้างใช้รถยกนำแท่งเหล็กยาวประมาณ 10 เมตร ขึ้นไปสำหรับก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริเวณเตาปูน แท่งเหล็กเกิดร่วงลงมาทับรถแท็กซี่ 2 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคลอีก 2 คัน ที่วิ่งมาตามถนนประชาราษฎร์สาย 2 เสียหาย กระจกแตก อุบัติเหตุครั้งนี้ยังทำให้ผู้โดยสารหญิง 1 คน ซึ่งนั่งมาในรถแท็กซี่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตำรวจจราจร
สน.เตาปูน เร่งเข้าเคลียร์พื้นที่ และเร่งระบายการจราจร ซึ่งใช้การได้เพียง 1 ช่อง จากเดิม 2 ช่อง
ขอบคุณที่มา : สำนักข่าวไทย
 
 
พังตึกถล่มเมืองฟิลาเดเฟียตาย1เจ็บ13คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฟิลาเดเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ว่า นายลอยด์ เอเยอร์ส ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิง เมืองฟิลาเดเฟีย เปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้เกิดเหตุตึกอพาร์ตเมนต์สูง 4 ชั้น ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทุบทำลาย
พังถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 12 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ยังมีอีก 2 คนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และต่อมาพบว่า เสียชีวิต 1 ศพและบาดเจ็บ1คน เศษซากปรักหักพังยังกระเด็นไปถูกร้านจำหน่ายสินค้าราคา
ประหยัดที่อยู่มุมถนนด้วย

นายคาร์ลตัน วิลเลียมส์ แห่งแผนกใบอนุญาตและการตรวจสอบของเมืองฟิลาเดเฟีย เปิดเผยว่า ไม่มีการกระทำผิดกฎหมายใดๆของตัวอาคารหลังนี้ และ บริษัทรับทุบตึกก็ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ตามรายงานข่าวระบุด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นอุบัติเหตุ
ขอบคุณที่มา : http://www.dailynews.co.th/world/209729

 
 
เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟม  วันที่ 5 มิ.ย. 2013 
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บโฟมม้วนโรงงานผลิตเม็ดโฟม บริษัท เอ็นเจลโปรดักส์ จำกัด ที่ตั้งอยู่ภายในซอยวัดลาดปลาดุก อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยเพลิงไหม้เผาตัวโกดังเก็บสินค้าเสียหายไป 1 หลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันสกัดเพลิงไหม้ใช้เวลานานกว่า 30 นาที  จึงสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ
เบื้องต้นพบว่า ตัวอาคารเกิดรอยร้าว ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้ชั่วคราว โดยเหตุดังกล่าวไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเป็นเวลาปิดทำการ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเพลิงไหม้ครั้งนี้อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ขอบคุณที่มา :  ข่าวช่อง 7 สี 
   
   
เพลิงไหม้ในสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงมอสโก อพยพผู้โดยสารจ้าละหวั่น สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ว่า  เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฉุกเฉินของรัสเซีย เปิดเผยว่า ทางการรัสเซียต้องอพยพผู้โดยสารหลายพันคน ออกจากสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงมอสโกวันนี้ หลังจากสายเคเบิลไฟฟ้าแรงสูง เกิดไฟไหม้ ทำให้สถานีรถไฟใต้ดินตลบอบอวลไปด้วยควันไฟในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน โดยกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน กล่าวว่า มีผู้โดยสารประมาณ 4,500 คน ถูกอพยพ หลังจากเพลิงไหม้ในอุโมงค์ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าโอคอตนี ไรอัด และบิบลิโอเตกา อิเมนี เบนินา ใกล้ทำเนียบเครมลิน เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 11.20 น.วันเดียวกัน ตามเวลาในไทย
สถานีโทรทัศน์รัสเซีย เผยแพร่ภาพกลุ่มควันที่สถานีรถไฟใต้ดินโอคอตนี ไรอัด หนึ่งในระบบรถไฟไต้ดินที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งมีทางออกไปยังทำเนียบเครมลิน และโรงละครบอลชอย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ภายใน 40 นาที มีประชาชนทั้งสิ้น 45 คนขอตรวจสุขภาพ และ 7 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า ผู้ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมีอาการสำลักควันไฟ
ขอบคุณที่มา : http://www.dailynews.co.th/world/209610 
   
   
ตรวจบ่อขยะสารพิษ จ.ชลบุรี   


วันที่ 4 มิ.ย. 2013 เวลา 20:11 น.
วันนี้นายณัฐพล  ณัฎฐสมบูรณ์  อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้นำเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงาน และดีเอสไอ   ลงพื้นที่ตรวจบ่อขยะที่ตำบลหนองอิรุนอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี  หลังรับร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่ามีการลักลอบทิ้งขยะพิษพบว่า มีขยะประเภทแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ถูกลักลอบทิ้งปะปนกับขยะชุมชน รวมกว่า 10 ตัน และน่าจะมีการลักลอบทิ้ง และเอาดินกลบทับ บังสายตามานานแล้ว
ทั้งนี้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นขยะพิษต้องห้าม  ที่ต้องกำจัดเป็นพิเศษเนื่องจากมีตะกั่ว และโลหะหนักปนเปื้อนหลายชนิด ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและต่อชุมชน ที่อาจรับสารพิษละลายลงแหล่งน้ำ  พร้อมแจ้งความเอาผิดเจ้าของบ่อขยะ  ซึ่งเป็นนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดชลบุรี  ข้อหาลักลอบทิ้งขยะพิษ มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จำคุกไม่เกิน2 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ                
ส่วนอีกจุดหนึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร  เป็นบ่อขยะของ บริษัท ฟู่ฝง เอ็นเตอร์ไพร์ส แอน ไมนิ่ง จำกัด เก็บรักษาวัตถุอันตราย ซึ่งเป็นฝุ่นแดงที่ได้จากการหลอมเหล็ก  เคยถูกดำเนินคดีไปเมื่อปีที่แล้ว  แต่เมื่อตรวจสอบซ้ำ พบว่าฝุ่นแดงจากผงเหล็กกลับมีเพิ่มขึ้น  ถูกบรรจุถุงกองไว้กลางแดด  ซึ่งเป็นการจัดเก็บไม่ถูกวิธี  และพบการเตรียมขนย้ายไปที่อื่น โดยไม่แจ้ง จึงสั่งให้ระงับการขนย้ายไว้ก่อนเพราะอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของดีเอสไอ
ขอบคุณที่มา :  ข่าวช่อง 7 สี
   
   
แก๊สพิษรั่วไหลที่จีน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจีนเร่งฉีดน้ำเพื่อสกัดการรั่วไหลของสารซิลิคอน เตตร้าฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นแก๊สพิษอันตราย ที่รั่วไหลออกมาจากถังบรรจุขนาด 200 ลูกบาศก์เมตร องโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในมณฑลฉ่านซีของ
จีนเมื่อเช้าวานนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนหลายครัวเรือนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 500 เมตร รอบโรงงานดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการรั่วไหลของสารดังกล่าวได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ส่วนสาเหตุของการรั่วไหลกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน  
ขอบคุณที่มา :  ข่าวช่อง 7 สี 
   
   
ไฟไหม้โรงงานยางพารา
กลางดึกเมื่อคืน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้ระดมฉีดสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ภายในโรงงานรมยางพารา พื้นที่หมู่ 2 ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ที่มี นายสมจิตร คงสง อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของ เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว  เนื่องจากภายในมีไม้ยางพาราที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง, ยางพาราแผ่นดิบ และยางแห้งจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เกือบชั่วโมงเจ้าหน้าที่จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงก็ได้เผาผลาญยางพาราวอดเสียหายไป 5 ตัน
สอบสวน ทราบว่า ขณะคนงาน 3 คน กำลังรมยางพารา โดยใช้ไม้ยางพาราสุม เพื่อเร่งไฟจนยางกรอบ และเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น จนไม่สามารถดับได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นพบว่าโรงงานดังกล่าว ได้เปิดดำเนินการมาประมาณ 2  เดือน โดยยังไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งตำรวจจะได้เชิญเจ้าของมาสอบสวนต่อไป

ขอบคุณที่มา :  ข่าวช่อง 7 สี 
   
   
   
 
 
 
 
หลักสูตรที่น่าสนใจ
 
  • การจัดสารเคมี และวัตถุอันตรายให้สอด
    คล้องกับกฎหมายและปลอดภัยกับโรงงาน
  •  
  • การจัดการกับขยะอันตรายและ
    ขยะทั่วไปให้ถูกต้องตามกฎหมาย
  •  
  • ติวเข้ม เพื่อสอบเป็นบุคลากรเฉพาะ ตามหลักสูตรความปลอดภัย การเก็บรักษา
    วัตถุอันตราย ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม
    กำหนด
  •  
  • “ทำอย่างไร ไม่ให้หลุดกฎหมาย เรื่อง การขออนุญาต การต่ออายุใบอนุญาตต่างๆ การส่งรายงานราชการ การฝึกอบรมและขึ้นทะเบียนบุคลากร ตามที่กฎหมายบังคับ” (ด้านสิ่งแวดล้อม และพลังงาน)
  •  
  • หลักสูตร “ทำอย่างไร ไม่ให้หลุดกฎหมาย เรื่อง การขออนุญาต การต่ออายุใบอนุญาตต่างๆ การส่งรายงานราชการ การฝึกอบรมและขึ้นทะเบียนบุคลากร ตามที่กฎหมายบังคับ” (ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสุขภาพ) 
  •    
     
  • ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครอง
    แรงงาน เรื่องกำหนดมาตรฐานเครื่องดับ
    เพลิงแบบ เคลื่อนย้ายได้
  •  
  • ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครอง
    แรงงาน เรื่องกำหนดแบบรายงานผลการ
    ฝึกซ้อมดับเพลิง และฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ
  •  
  • สถานประกอบการต้องยื่นแบบ คร 11  (แบบรายงานสภาพการจ้างและสภาพ
    การทำงาน ปี 2555)
     อ่านรายละเอียด++
  •  
  • ขยายเวลาลดเงินสมทบประกันสังคม
    ปี 2556
    อ่านรายละเอียด++
  •  
  • สำนักงานประกันสังคมแจ้งผู้ประกันตน ยื่นเปลี่ยนโรงพยาบาลได้ ตั้งแต่วันที่
    2 มกราคม – 29 มีนาคม 2556 นี้  

    อ่านรายละเอียด++
  •  
  • รายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคมปี 2556 แยกตามจังหวัด อ่านรายละเอียด++
  •  
       
     
      download แบบฟอร์มต่าง ๆ ที่นี่
       
     
     
  • ต้องการรับข้อมูลข่าวสารคลิกที่นี่
  •    
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
       
     
    Copyright © 2009 AIM Consultant Co., Ltd. All rights reserved.